จากการณี เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2566 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพื้นที่ เขื่อนยายแจ๋ว หมู่ 1 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พบโครงกระดูกคล้ายมนุษย์ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อนเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทรา เบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนกระดูกจำนวนหลายชิ้น กระจัดกระจายอยู่ใกล้เคียงยังพบชุดชั้นในสตรี สีดำ อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ได้เล่าว่าเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน มีหญิงสาวเป็นชาวกัมพูชาที่เคยมานั่งขายผักในตลาดหายตัวไป และได้ทำการสอบถามกับทางสามีของหญิงคนดังกล่าว ได้แจ้งว่า แฟนตัวได้กลับบ้านไปอยู่ที่บ้านเกิดกัมพูชาแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่วันนี้เมื่อมีข่าวว่าพบโครงกระดูกในพื้นที่ ก็ไม่พบชายคนดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเขาหินซ้อน ได้สอบสวนจนทราบว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็นของ นางน้อย ชาวกัมพูชาที่หายตัวไปเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา โดย วันที่ 11 เมษายน 2566 เวลา 16.00 น. พันตำรวจเอก ณรงค์ฤทธิ์ เพชรศักดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาหินซ้อน ได้นำตัว นายรณ ชาวกัมพูชาซึ่งเป็นสามีของ นางน้อย มาทำการสอบสวนซึ่ง นายรณ ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายนางน้อย จึงได้นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
โดยนายรณได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับนางน้อยมีปากเสียงกัน โดยนางน้อยได้ใช้ด้ามมีดตีที่หัวตนจำนวน 2 ครั้ง ส่วนตนเกิดความโมโหจึงแย่งด้ามมีดแล้วใช้มือทุบที่ท้ายทอยนางน้อย 2 ครั้ง ทำให้นางน้อยฟุบลงกับพื้น หลังจากนั้นได้ใช้เชือกมัดและแบกร่างน้อยไปทิ้งในป่า ส่วนตัวเองก็ไปรับจ้างตามปกติตามพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งสาเหตุจากการฆาตกรรมในครั้งนี้เกิดจากปัญหาครอบครัวและเรื่องของความหึงหวง ที่นางน้อยคบกับผู้ชายหลายคน
ชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงกล่าวว่า นายรณและนางน้อย ทั้ง 2 คน ชอบกินเหล้ากันทั้งคู่ โดยนายรณ ได้ย้ายออกนอกพื้นที่ก็อยู่ในช่วงที่นางน้อยหายไป ตนก็คิดว่าไปรับจ้างทำงานในที่อื่น เพราะนายรณ จะรับจ้างปลูกมัน ถางหญ้า ส่วนนางน้อยนั้นจะเก็บผักบุ้งหรือของในป่าไปขายยังตลาด จากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการควบคุมตัว นายรณ กลับเพื่อไปดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
