วันนี้ (9 เม.ย.66) เวลา 16.00 น ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท. ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนผู้ปกครองใช้ความระมัดระวังอุบัติเหตุเด็กจมน้ำ และประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่ากองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเปิดฝึกสอนการว่ายน้ำให้กับเด็กและเยาวชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
พ.ต.ท. ธ เทพ เปิดเผยว่า พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยเด็กๆ และเยาวชนที่เล่นน้ำเพื่อดับร้อนในฤดูร้อนหรือช่วงปิดภาคเรียนอาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ และการจมน้ำเสียชีวิตนั้นนับเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่คร่าชีวิตเด็กและเยาวชนไทย โดยเป็นอุบัติภัยที่สามารถป้องกันด้วยด้วยความการใช้ความระมัดระวัง
พ.ต.ท. ธ เทพ กล่าวว่าจากสถิติข้อมูลของกรมควบคุมโรค รายงานว่าระหว่างปี 2555-2564 มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต รวม 7,374 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 2 คน และในปี 2566 ข้อมูลจากโปรแกรมตรวจสอบข่าวการระบาด ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-16 มี.ค. 2566 พบการรายงานเหตุการณ์จมน้ำเสียชีวิต จำนวน 4 เหตุการณ์ เดือน ม.ค. มี 3 เหตุการณ์ ที่จังหวัดสงขลา นราธิวาส และกระบี่ พบผู้จมน้ำเสียชีวิตรวม 5 ราย ในเดือนมีนาคมที่จังหวัดอุบลราชธานี พบจมน้ำเสียชีวิตจำนวน 5 ราย เกิดเหตุแพข้ามฟากแม่น้ำมูลล่ม เนื่องจากมีผู้โดยสารจำนวนมากเกินกว่าแพรับจะน้ำหนักไม่ไหว
พ.ต.ท. ธ เทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเด็กและเยาวชนทุกช่วงอายุวัย ล้วนมีปัจจัยเสี่ยงที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสมกับช่วงอายุ ดังนี้
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี มักจะพลัดตกน้ำเพราะผู้ใหญ่ประมาทเผอเรอเพียงชั่วขณะระหว่างการเฝ้าดูแล
- เด็กอายุระหว่าง 3-9 ปี เสี่ยงเพราะสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัยและขาดทักษะในการช่วยเหลือตัวเองในน้ำ
- เด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10- 17 ปี เสียงเพราะประมาทในการเล่นน้ำ การช่วยคนจมน้ำ และในหลายกรณี พบว่าเกิดจากสภาพร่างกายเช่นตะคริว หรือมีอาการมึนเมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย
รองโฆษก ตร. จึงให้คำแนะนำในการป้องกันเหตุเด็กและเยาวชนมิให้จมน้ำในขณะเล่นน้ำและในกรณีอื่นๆ ด้วยการใช้ความระมัดระวังเฝ้าดูในระหว่างเด็กเล่นน้ำให้เหมาะสมกับช่วงอายุวัย สอนให้เด็กและเยาวชนมีความตระหนักรู้เรื่องข้อควรระวังและข้อห้ามในการลงเล่นน้ำ สอนให้สังเกตป้ายเตือนต่างๆ หรือสังเกตสภาพแวดล้อมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง และไม่ลงเล่นน้ำในเขตหวงห้ามหรือเขตอันตราย เตรียมอุปกรณ์ชูชีพในขณะเล่นน้ำ รวมตลอดถึงการฝึกทักษะการว่ายน้ำแก่เด็กและเยาวชนให้ดีเพียงพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ควรมีผู้ใหญ่ดูแลตลอดเวลาที่เด็กเล่นน้ำ ถ้าเป็นเด็กเล็ก ต้องมีผู้ใหญ่ที่ว่ายน้ำเป็นอยู่ใกล้ในระยะแขนเอื้อมถึง ถ้าเป็นเด็กโตควรมีผู้ใหญ่มองดูอยู่ตลอดเวลาแม้จะเป็นเด็กที่ว่ายน้ำได้แล้ว และผู้ใหญ่ที่มีเด็กและเยาวชนอยู่ในความดูแลนั้นควรเข้ารับการฝึกฝนการช่วยชีวิตคนจมน้ำที่ถูกต้องอีกทางหนึ่งด้วย
และจากนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้จัดทำโครงการ “ตำรวจน้ำสอนน้องว่ายน้ำ” โดยเชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองที่สนใจให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 5-18 ปี มาเรียนว่ายน้ำกับตำรวจน้ำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในทุกจังหวัดที่มีหน่วยของตำรวจน้ำตั้งอยู่ โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ตามสถานที่ตั้งหน่วยตำรวจน้ำ หมายเลขโทรศัพท์กลางของกองบังคับการตำรวจน้ำ 02-384-2342 และที่เพจเฟสบุ๊ค “ตำรวจน้ำ”
รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ประชาชนควรมีหมายเลขโทรศัพท์สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669 หมายเลขโทรศัพท์ของสถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือเบอร์แจ้งความฉุกเฉิน หากต้องการความช่วยเหลือหรือเหตุด่วนเหตุร้าย สามารถแจ้งมายัง Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่หมายเลข 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง