พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผล ค้ามนุษย์ป่าตอง เปิดปฏิบัติการเข้าค้น 36 จุด ใน 10 จังหวัด ขยายผล ยึดอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาค้ามนุษย์
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลจากทีมสืบสวนองค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (Operation Underground Railroad) กรณีสถานประกอบการแอบแฝงค้าประเวณีเด็ก จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและสามารถจับกุม น.ส.วัชราภรณ์ ทองมาก และ น.ส.ทักษกร ศุภอัครโภคิน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก (บุคคลผู้มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามฯ และค้ามนุษย์ โดยจับกุมได้ที่ ร้าน Velvet ถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และยังสามารถช่วยเหลือเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้อีกจำนวน 6 คน พื้นที่รับผิดชอบ สภ.ป่าตอง ภ.จว.ภูเก็ต รายละเอียดตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งสืบสวนจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องนำมาดำเนินคดีทั้งหมด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของที่แท้จริงและดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสืบสวนพบว่า ร้าน Velvet ที่เกิดเหตุนั้น ดำเนินการโดย บริษัท ออรั่ม บัวหลวง จำกัด และยังมีร้านในเครืออีก 3 ร้าน ได้แก่ ร้าน Model ร้านBangla Beach และร้าน Strip Phuket Bar
ต่อมาวันที่ 17 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท ออรั่ม บัวหลวง จำกัด เพิ่มอีก 3 คน ได้แก่
1. น.ส.เบญจมาภรณ์ กระจาดแก้ว
2. นางสุภาพร ไลออนส์
3. นายรอนนี่ ปีเตอร์ฮิทซ์ (MR.RONNY PETER HITZ)
โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก (บุคคลผู้มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามฯ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า บริษัท ออรั่ม บัวหลวง จำกัด มี น.ส.เบญจมาภรณ์ฯ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ แต่ข้อเท็จจริงมีสถานะเป็นเพียงลูกจ้างของนายรอนนี่ แต่ถูกใช้เป็นนอมินี จึงได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดีกับ น.ส.เบญจมาภรณ์ฯ นายรอนนี่ และบริษัท ออรั่ม บัวหลวง จำกัด เพิ่มเติมในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ในลักษณะเป็นนอมินี สรุปรวมผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย สามารถติดตามจับกุมได้จำนวน 4 ราย หลบหนี 1 ราย คือ นายรอนนี่ ซึ่งเดินทางออกนอกราชอาณาจักรแล้ว จะได้ประสานของหมายแดงตำรวจสากล (Red Notice) เพื่อประสานติดตามจับกุมต่อไป
ในส่วนของการแอบแฝงการค้าประเวณีเด็กนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ตรวจสอบระบบจัดเก็บข้อมูลในร้านพบว่า มีข้อมูลการอ๊อฟเด็กจากร้านไปข้างนอก (PAY BAR) เพื่อทำการร่วมประเวณี จำนวน 109 ครั้ง สามารถขยายผลติดตามเหยื่อที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีได้เพิ่มอีก 4 ราย และสามารถขยายผลหาตัวผู้ใช้บริการทางเพศได้ นำไปสู่การออกหมายจับได้จำนวน 6 คน จับกุมแล้ว 3 ราย ได้แก่
1.Mr.Paul Herbert Corbett สัญชาติ ออสเตรเลีย อายุ 67 ปี (จับแล้ว)
2.Mr.Max Rigobert Ramasamy สัญชาติ ฝรั่งเศส อายุ 68 ปี (จับแล้ว)
3.Mr.Jeffrey Lynn Amman สัญชาติ อเมริกา อายุ 50 ปี (หลบหนี/Red Notice)
4.Mr.Ahmed Saleh Balobead สัญชาติ ซาอุดิอาระเบีย อายุ 40 ปี (หลบหนี/Red Notice)
5.Mr. Mutu Pan สัญชาติ จีน อายุ 44 ปี (จับแล้ว)
6.Mr.Jesse James Demian สัญชาติ อเมริกา อายุ 49 ปี (หลบหนี/Red Notice)
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (30 มี.ค.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุม้ติหมายค้นต่อศาล และร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ เข้าทำการตรวจค้น ตรวจอายัดทรัพย์ของผู้ต้องหาที่กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ อันเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานทางคดี จำนวน 36 จุด ใน 10 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ชลบุรี ปราจีนบุรี นครสวรรค์ นครราชสีมา สุรินทร์ ราชบุรี เพชรบุรี และภูเก็ต ผลการตรวจค้นมีดังนี้
1.อายัดบัญชีกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 52 บัญชี เงินหมุนเวียนในบัญชี 100 ล้านบาท
2.อายัดบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 2 หลัง มูลค่า 7,000,000 บาท
3.ห้องชุด จำนวน 1 ห้อง มูลค่า 5,000,000 บาท
4.ที่ดินเปล่า จำนวน 4 แปลง มูลค่า 10,000,0000 บาท
5.รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน มูลค่า 500,000 บาท
6.ตรวดยึดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาและบริษัทฯ อีก 20 บัญชี
7.เอกสารการเกี่ยวข้องกับการเงิน และเอกสารเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา จำนวนมาก
มูลค่าทรัพย์สินรวมที่อายัดในวันนี้ มูลค่า 22,000,000 บาท
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวหลังจากที่มีการจับกุมดำเนินคดีเจ้าของและผู้ดูแลร้านในคดีค้ามนุษย์ พร้อมกับช่วยเหลือเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้จำนวน 6 รายแล้ว ยังสามารถขยายผลดำเนินคดีกับบริษัทที่เป็นเจ้าของ โดยใช้คนไทยเป็นนอมินีได้เพิ่มอีก 3 ราย นอกจากนี้ยังขยายผลไปยังผู้ซื้อบริการเด็กอีกจำนวน 6 ราย และช่วยเหลือเหยื่อได้เพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็นจำนวนเหยื่อที่เป็นเด็ก 10 คน นอกจากนี้ชุดทำงานยังได้ขยายผลดำเนินการเข้าตรวจค้นเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งมีความผิดฐานค้ามนุษย์เป็นความผิดมูลฐาน กระบวนการเหล่านี้จะเป็นกระบวนการในการดำเนินคดีพื้นฐานของความผิดฐานค้ามนุษย์ทุกคดี จะสั่งการให้ขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งดำเนินการยึดอายัดทรัพย์เพื่อมิให้ผู้กระทำผิดสามารถกลับมากระทำผิดซ้ำได้อีก รวมทั้งเมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว จะได้นำทรัพย์สินเหล่านั้นมาช่วยเหลือเยียวยาเหยื่ออีกด้วย หลังจากนี้จะขยายผลเพิ่มเติม หากพบผู้กระทำผิดหรือทรัพย์สินอื่นใดที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทั้งหมด