ระดมเครื่องบินทำฝนหลวง ดับไฟป่าเขาชะพลู-เขาแหลม

อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร สั่งระดมเครื่องบินทำฝน ดับไฟป่าเขาชะพลู-เขาแหลม

วันที่ 30 มีนาคม 2566 นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าบริเวณเขาชะพลู ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก บริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และได้ลุกลามไปยังเขาแหลม ที่อยู่ติดกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ยังคงมีไฟลุกลามบริเวณสันเขาอยู่นั้น ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรีติดตามสถานการณ์ และวางแผนเพื่อขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือ ซึ่งในเช้าวันนี้ข้อมูลสภาพอากาศพบว่ามีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 60% เป็นค่าความชื้นสัมพัทธ์ที่สามารถก่อเมฆได้ และมีโอกาสเกิดฝนตก

หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี จึงได้วางแผนบินในเวลา 09.50 น. โดยใช้เครื่องบินขนาดเล็ก (caravan) จำนวน 3 ลำ ปฏิบัติการ 3 เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวง จำนวน 2,100 กิโลกรัม บินที่ความสูง 6,100 ฟุต บริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ถึงอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พื้นที่การเกษตรจังหวัดปราจีนบุรี และพื้นที่ไฟป่าจังหวัดนครนายก ส่วนในช่วงบ่าย ได้ขึ้นบิน เวลา 13.30 น. ใช้สารฝนหลวง จำนวน 1,100 กิโลกรัม บินที่ระดับความสูง 6,500 ฟุต บริเวณอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ถึงอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี และใช้สารฝนหลวง จำนวน 1,000 กิโลกรัม บินที่ความสูง 5,000 ฟุต บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายดังกล่าวอีกด้วย

นายสุพิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละออง ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ทางกรมฝนหลวง และการบินเกษตร ยังคงมีการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือทุกวัน โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (29 มีนาคม 2566) ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควัน และไฟป่าบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี และจังหวัดแพร่ ส่วนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง มีปฏิบัติการลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

ขณะเดียวกันก็ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดอุดรธานี กาฬสินธุ์ สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ เลย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และจังหวัดระยอง เติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 11 แห่ง รวมถึงบินปฏิบัติการยับยั้ง และบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บในพื้นที่จังหวัดเลย

อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเชียงใหม่ ได้วางแผนบินช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก และพื้นที่การเกษตรของจังหวัดเชียงราย หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง แพร่ ช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณจังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงอุดรธานี ช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู สกลนคร และกาฬสินธุ์