ตร.ภาค1 แถลงผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้น จับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด

วันนี้ เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ภ.1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 และ ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 ในการแถลงข่าวผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้น จับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด

ตามนโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญในการควบคุมและลดความรุนแรงของอาชญากรรมซึ่งเป็นภัยคุกคาม ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาจน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้มีการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรม ประเภทต่างๆ ปัญหาการใช้อาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด รวมถึงการจำหน่ายอาวุธต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ หรือผ่าน สื่อโซเชียลมีเดียโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนำไปก่อเหตุอาชญากรรมสะเทือนขวัญ สร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน และสร้างความตื่นตระหนกในสังคมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 13 – 17 เมษายน 2555 เป็นวันหยุดยาวเทศกาลวันสงกรานต์ประจำปี 2566 และเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบเรียบร้อย ก่อนการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการรักษาความสงบเรียบร้อยให้เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพเกิดความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่

ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 และ ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยนำมาตรการการควบคุมอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว มีผลเป็นรูปธรรม เพื่อลดการก่อเหตุที่มีการใช้อาวุธปืนมากระทำผิด และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับ ประชาชน จึงกำหนดให้มีการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 18 และ 25 มีนาคม 2566 สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด จำแนกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

1.คดีอาวุธปืน มีผลการจับกุม รวม 288 คดี ผู้ต้องหา 271 คน รวมอาวุธปืน 261 กระบอก แยกเป็น ปืนมีทะเบียน 140 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 121 กระบอก วัตถุระเบิด 2 ชิ้น และเครื่องกระสุนปืน จำนวน 2,498 นัด

2.ความผิดจําหน่ายอาวุธปืน (ออนไลน์) รวมคดีอาวุธปืน 11 คดี แยกเป็นปืนมีทะเบียน 2 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 6 คดี เครื่องกระสุนปืน 3 คดี

3.คดียาเสพติด แบ่งเป็น ยาบ้า จำนวน 22,040 เม็ด ยาไอซ์ 68.22 กรัม และเคตามีน 0.9 กรัม

อีกทั้งเมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา ภ.จว.สระบุรี และได้สนธิกำลังกับ ชุดปราบปรามยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาไอซ์ 4 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน พร้อมด้วยของกลางเป็น ยาไอซ์ 6 กระสอบ น้ำหนักรวมกว่า 300 ก.ก. พร้อมกับ ตรวจยึด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก รถยนต์ของกลางจำนวน 2 คัน ซึ่งผู้ค้องหาได้ใช้เป็นรถในการนำทางและขนยาไอซ์ จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้นำยาไอซ์มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศ ผ่านช่องทางจังหวัด นครพนม โดยจะนำมาขายต่อให้กับลูกค้าในเขตปริมณฑล อาวุธปืน 2 กระบอก การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขยายผลการจับกุมจากกรณีที่มีการจับกุมขบวนการลักลอบปรัชญาเสพติดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่สามารถยึดของกลางเป็นยาเสพติดจำนวนกว่า 2 ล้านเม็ด เข้ามาในประเทศไทยจึงได้มีการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลการจับกลุ่มจนกระทั่งจากกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 รายในครั้งนี้ได้

ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 1 ขอความร่วมมือจากภาคประชาชนและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยสังคมแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดตามกฎหมายผ่านทางสถานีตำรวจ ทุกแห่ง และหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง