รวบหนุ่มอ้างเป็นตำรวจ หลอก รปภ. ช่วยยกของ ก่อนกรรโชกทรัพย์

สืบวังทองหลาง รวบหนุ่มอ้างเป็นตำรวจ หลอก รปภ. ช่วยยกของ ก่อนกรรโชกทรัพย์ ก่อเหตุมาแล้วหลายท้องที่

วันนี้ (24 มี.ค.66) เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.วังทองหลาง ได้จับกุมตัว นายธนิต หรือโอม สงวนนามสกุล อายุ 29 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิ๊กสีดำที่ใช้ก่อเหตุ โดยเคยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออ้างให้เหยื่อไปช่วยงานตำรวจ แล้วตบทรัพย์ผู้เสียหาย ขยายผลทราบว่าก่อเหตุมาแล้วหลายคดีหลายท้องที่

ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค.66 เวลาประมาณ 23.00 น. นายอับดุลฮาริ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้เสียหายประกอบอาชีพ พนักงานงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.) ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ว่าถูกชายไทยอายุประมาณ 30-40 ปี สูงประมาณ 160-170 ซม.รูปร่างท้วม ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก 150 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อ้างว่าเป็นพนักงานทำงานอยู่บริษัทที่ผู้เสียหายดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ ได้ชักชวนให้ตนไปช่วยยกของโดยใช้กลอุบายหลอกให้ตนขึ้นรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน จากนั้นพอสบโอกาสคนร้ายได้พูดข่มขู่ผู้เสียหายให้เอาโทรศัพท์มาให้ ถ้าไม่ให้จะยิง พร้อมถลกชายเสื้อและทำท่าทีเหมือนจับอาวุธปืน ผู้เสียหายจึงได้ส่งโทรศัพท์มือถือไปให้ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สน.วังทองหลาง นำโดย พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี รอง ผกก.สส.สน.วังทองหลาง และ พ.ต.ท.ปิตินันท์ แก้วดวงเทียน สว.สส.สน.วังทองหลาง ได้สืบสวนติดตามตัวคนร้ายต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการก่อเหตุ ผลการตรวจค้นยังพบหมวกตำรวจจราจร ซึ่งคนร้ายได้ใช้กลอุบายหลอกเหยื่อว่าเป็นตำรวจหรือบอกเหยื่อให้ไปช่วยงานตำรวจ โดยใช้กลอุบายในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ในพื้นที่ สน.หัวหมาก , สน.โชคชัย และ สน.ลาดพร้าว อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการขยายผลเพื่อติตตามของกลางในคดีนี้ โดยสามารถตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือได้จำนวนหนึ่ง จากพ่อค้ารับซื้อของเก่าโทรศัพท์มือถือมือสองย่านแยกเสือป่า ที่พักอยู่ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งผู้ต้องหานำไปขายต่อในทันที จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบ สน.ในพื้นที่ใกล้เคียง พบว่ามีคดีในลักษณะแบบเดียวกันกว่า 10 คดี ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะเป็นบุคคลคนเดียวกัน