เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ที่ ห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พิชัย กิระวาณิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.เธียรวิโรจน์ เชี่ยวชาญ รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.วจ.สยศ.ตร. พ.ต.อ.จารุพันธ์ เสริมพงศ์ รอง ผบก.อฎ. พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันแถลงผลการติดตาม และเร่งรัดการปฏิบัติขับเคลื่อนการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) โดยได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 319 เครือข่าย รวม 609 จุด ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการวันนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้กวาดล้างคดียาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างหลังพบการแพร่ระบาดจำนวนมาก เช้าวันนี้ตนจึงได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดใน 7 จังหวัด ประกอบด้วยสงขลา ตรัง สตูล พัทลุง ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 609 จุด จากการตรวจค้นสามารถจับกุมได้ 227 คดี รวมผู้ต้องหา 235 คน ยึดของกลางเป็นยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 320,829 เม็ดไอซ์ 4.75 กรัม เฮโรอีน 4.81 กรัม อาวุธปืน 29 กระบอก นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ จำนวน 72 รายการ มูลค่าทรัพย์สิน รวม 17,446,723 บาท โดยเบื้องต้นได้สั่งการตำรวจภูธรภาค 9 ขยายผลการจับกุมเพื่อสาวให้ไปถึงตัวการรายใหญ่ต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงวันที่ 15 มี.ค. ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 4 เครือข่าย ประกอบด้วย 1. เครือข่าย น.ส.สุภาพร หรือ สุ ฟักหมิด และนายพิชิต หรือ บิ๊ก บัวผุด (ในพื้นที่ จว.พัทลุง) 2. เครือข่าย นายนฎดล หรือ บ่าว เข็มนาค (พื้นที่ จว.สงขลา) 3. เครือข่าย นายวีรยุทธ หรือเล็ก ทส. (พื้นที่ จว.สงขลา) และ 4. เครือข่าย นายมะตายูดิน หรือ แช เจ๊มะ (พื้นที่ จว.ยะลา) ได้ผู้ต้องหารวมทั้ง 4 เครือข่าย รวม 18 คน ได้ของกลางยาบ้า 1,971,700 เม็ด ไอซ์ 30 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินทั้งหมด 14,274,500 บาท
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการยังไม่จบแค่นี้ ได้สั่งการให้ไปขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินและข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพราะจากข้อมูลการสืบสวนพบว่าในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 เป็นพื้นที่หนึ่งที่เป็นแหล่งพักยาเสพติดเพื่อจำหน่ายและส่งออกไปยังประเทศที่สาม ทั้งนี้ได้ให้ตำรวจท้องที่แต่ละแห่งและตำรวจสืบสวนภูธรภาค 9 ประสานงานกันในเรื่องของข้อมูลเพื่อจัดทำถังข้อมูลยาเสพติดในพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลการสืบสวนปัจจุบันยังไม่เชื่อมโยงกัน เชื่อว่าการปฏิบัติการครั้งนี้ถ้าทำพร้อมกันทั่วประเทศ จะแก้ปัญหายาเสพติดได้เนื่องจากเป็นการทลายเครือข่ายยาเสพติดพร้อมกัน ต่อไปคนคลุ้มคลั่งจากยาเสพติดจะน้อยลง สังคมจะมีความปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ยังได้ตรวจดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ และระบบสายตรวจโดย สภ.หาดใหญ่ ได้ใช้รถตู้ “สายตรวจเวหา” ติดตั้งระบบสมาร์ทไซเบอร์ ซึ่งมีเครื่องสแกนใบหน้าบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งคดีอุจกรรณ์และคดียาเสพติดทั่วประเทศเอาไว้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะขับรถตู้เคลื่อนที่ไปตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ สภ.หาดใหญ่ หากพบบุคคลตามหมายจับระบบในรถจะแจ้งเตือนทันทีและชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งอยู่บนรถก็จะสามารถลงไปปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างทันท่วงทันที โดยระบบนี้มีความแม่นยำมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์