ผบ.ตร. แสดงความเสียใจ เหตุ ‘สารวัตรคลั่ง’ ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย สั่งกำชับสำนวนคดี ตั้งคณะทำงาน รวบรวมหลักฐานทุกมิติ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่สายไหมว่า “ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดความสูญเสีย สำหรับสถานการณ์วันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับทีมแพทย์ และนักจิตวิทยาของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีการพูดคุยและประเมินอาการของผู้ก่อเหตุตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามทุกอย่าง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย
ซึ่งการดำเนินการควบคุมสถานการณ์ต้องใช้ความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน และประชาชน จึงต้องระมัดระวังในการดำเนินการตามหลักยุทธวิธีอย่างดีที่สุด จะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยเกี่ยวข้อง เน้นการเจรจามาตลอด แต่เมื่อมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ ตำรวจได้ปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุ ผบ.ตร.ได้กำชับการทำคดี ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม ตอบคำถามสังคมและญาติของผู้สูญเสียได้ โดยให้ ผบช.น. ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทุกมิติในที่เกิดเหตุให้ครบถ้วน สอบสวนทุกประเด็นข้อสงสัยพร้อมได้เชิญอัยการเข้ามาร่วมทำการสอบสวน รวมทั้งคดีนี้เป็นการเสียชีวิตโดยเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายต้องมีการร่วมชันสูตรหลายฝ่าย ทั้งพนักงานอัยการ กรมการปกครอง และพนักงานสอบสวน ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ เพื่อประกอบสำนวนการเสียชีวิต
โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า “จะเห็นว่าทุกขั้นตอนตั้งแต่การเข้าควบคุมสถานการณ์ การทำสำนวนคดี และการชันสูตรพลิกศพ มีหน่วยงานอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องมาร่วมปฏิบัติตลอด ตำรวจไม่ได้ทำฝ่ายเดียว อีกทั้งเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม ตร.ให้ความสำคัญในการปฏิบัติทุกขั้นตอนอยู่แล้ว ยิ่งมีการสูญเสีย ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ท่าน ผบ.ตร.ได้กำชับให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย