ตำรวจ สน.สายไหม ตรวจหาพยานหลักฐานในบ้าน ‘สารวัตรกานต์’ เพิ่มเติม โดยเฉพาะหัวกระสุนที่ตกอยู่โดยรอบบ้าน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี โดยเตรียมมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต
ตำรวจ สน.สายไหม ตรวจหาพยานหลักฐานในบ้านสารวัตรกานต์เพิ่มเติม โดยเฉพาะหัวกระสุนที่ตกอยู่โดยรอบบ้าน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี โดยเตรียมมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต ตำรวจหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.สายไหม สำนักงานเขตสายไหม และเจ้าหน้าที่กลุ่มสายไหมต้องรอด ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักของพันตำรวจโทกิตติกานต์ แสงบุญ หรือ สารวัตรกานต์ ที่คลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนในบ้านพัก ภายในหมู่บ้านมั่นคง 2 ซอยสายไหม 46 เพื่อหาวัตถุพยานเพิ่มเติม โดยเฉพาะหัวกระสุน และปอกกระสุน
พันตำรวจเอกรังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำการสน.สายไหม เปิดเผยว่า การค้นหาพยานหลักฐานวันนี้ เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องตรวจโลหะ ค้นหารอบบ้านในรัศมีประมาณ 20 เมตร โดยเฉพาะหลังบ้านที่เป็นป่า และบ่อน้ำ และใช้รถเครนของสำนักงานเขตสายไหม มาร่วมตรวจวัดแนววิถีกระสุนมุมสูงที่อยู่บนบ้าน และทะลุกำแพงบ้านออกมาด้านนอก รวมทั้งตรวจสอบหัวกระสุนที่อาจฝังอยู่ในกำแพง และบ่อเกรอะเพื่อหาวัตถุ ที่อาจถูกทิ้งลงในโถส้วม
โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับสารวัตรกานต์ไปรวม 5 ข้อหา เช่น พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ยิงปืนในที่สาธารณะ เป็นต้น พนักวานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่ค้นหาในวันนี้ไปเพิ่มเติม และเมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิต ก็จะต้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียง ก็ยังไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาเคยเห็นสารวัตรกานต์ ออกมาเดินไปเดินมาและพูดคนเดียวอยู่ที่ป่าหลังบ้าน แต่ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร มีเพียงแต่การพูดเสียงดังที่เป็นมาจากการดื่มสุรา และเสพกัญชา แต่ในวันเกิดเหตุสารวัตรกานต์ไม่ได้เอาปืนมาไล่ยิงชาวบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ก็เริ่มมีอาการเครียด และเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รื้อฝ้าเพดานที่ห้องพักชั้น 2 รวมถึงตรวจสอบภายในบ่อเกรอะหลังที่พัก ซึ่งคาดว่าสารวัตรกานต์จะนำปลอกกระสุนไปทิ้ง ซึ่งการค้นหาในวันนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบปลอกกระสุนเพิ่มเติม แต่พบหัวกระสุนอีก 3 หัวในบริเวณที่เกิดเหตุ เบื้องต้นยังไม่ทราบชนิด ต้องนำไปตรวจสอบต่อไป