วันที่ (11 มี.ค.66) พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยผลการสกัดกั้นจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดที่ถูกลักลอบซุกซ่อนมากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านสายการบินจากต่างประเทศ และการเตรียมส่งออกนอกประเทศ โดย ภายใต้การขับเคลื่อนภารกิจปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 จัดกำลังสืบสวนตรวจตราจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ที่คอยปรับเปลี่ยนวิธีด้วยการซุกซ่อนลำเลียงขนส่งยาเสพติดในรูปแบบต่างๆ ผ่านระบบ Logistics อาทิ พัสดุภัณฑ์, ไปรษณีย์, ทางท่าเรือ, และทางอากาศ เพื่อให้ก้าวตามทันขบวนการเหล่านี้ ไม่ใช่เป็นแค่การจับกุมตามเส้นทางถนนซึ่งขบวนการได้ใช้ลำเลียงเป็นหลักเท่านั้น ต้องทำควบคู่กันในทุกมิติ ของการปราบปรามไม่ว่าจะลักลอบลำเลียงด้วยวิธีใดก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถติดตามเฝ้าระวังและสกัดจับได้ในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจ หน่วยปราบปรามยาเสพติดสุวรรณภูมิ (NSB) ได้ประสานความร่วมมือภายใต้โครงการด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติ หรือ AITF ประกอบด้วย ป.ป.ส.,กรมศุลกากร ,ศรภ. จนสามารถนำไปสู่การสกัดกั้นยาเสพติดในห้วงเดือน ตุลาคม – ปัจจุบัน พ.ศ.2566 ได้หลายรายการ อาทิ ไอซ์ 12 กก., ยาบ้า 11,823 เม็ด, เคตามีน 1.7 กก., โคเคน 5.3 กก., เฮโรอีน 4.2 กก. และยาสำหรับใช้ทางการแพทย์ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง, กล่อมประสาท และยานอนหลับ 79,200 เม็ด มีทั้งนำเข้ามาจาก ต้นทาง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศเอธิโอเปีย ขณะที่การส่งออกพบปลายทางไปยังฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลี และออสเตรเลีย เลี่ยงการถูกจับด้วยการซุกซ่อนไปกับเครื่องครัว, ถุงขนม, หมอนพื้นบ้าน, ตู้ลำโพง, กระเป๋าผ้าพื้นเมืองชาวเขา และ ถุงแป้งทำขนม สำหรับการปราบปรามนี้เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติด รวมทั้งสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากต่างประเทศไม่ให้เข้ามาสู่พื้นที่ประเทศไทยและพื้นที่ขั้นใน รวมทั้งการส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศที่ 3
สำหรับยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น พนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส., กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป