รวบมิจฉาชีพส่งสลิปโอนเงินปลอม สั่งซื้อมะม่วงผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊ก ก่อนขอยกเลิกให้ผู้ขายโอนเงินคืน

วันที่ 3 มี.ค.66 เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ คือ นายดูริยะ (นามสมมุติ) เมื่อวันที่ 1 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ จว.ปัตตานี เพื่อส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ดำเนินคดีตามกฎหมายกรณีส่งสลิปโอนเงินปลอม เพื่อสั่งซื้อมะม่วง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชน นั้น

โดยกระทำความผิดในข้อหา “โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง , ปลอมเอกสารสิทธิ , ใช้หรืออ้างเอกสารปลอม และฉ้อโกง” อันเป็นความผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 , ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266 , 268 และ 341 ซึ่งกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 ก.พ.66 ผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก (Facebook) เพื่อทักมาขอซื้อมะม่วงในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอบางคล้า” จำนวน 5 กก. ในราคา 449 บาท และอีกจำนวน 9 กก. ในราคา 729 บาท รวมเป็นเงิน 1,178 บาท จากนั้น ผู้ต้องหา ก็ได้ส่งสลิปการโอนเงินของธนาคารกรุงเทพ แจ้งการโอนเงินสำเร็จ ลงวันที่ 13 ก.พ.66 เวลา 08.39 น. จำนวน 1,178 บาท จากนายดูริยะ เลขบัญชี 604-0-xxx163 โอนไปที่ บัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.ชื่อลูกสาวผู้เสียหาย พร้อมส่งรูปสลิปดังกล่าวมาให้ผู้เสียหาย หลังจากนั้น ก็ได้แจ้งขอยกเลิกออเดอร์มะม่วง 9 กก.ขอให้โอนเงินคืน เป็นจำนวนเงิน 729 บาท ไปยังบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อผู้ต้องหา ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงทำการโอนเงินจำนวนดังกล่าว ในส่วนออเดอร์ 5 กก. ให้จัดส่งไปยังที่อยู่ตามที่ผู้ต้องหาแจ้ง ไปที่บ้าน ในตำบล รุสะมีแล อำเภอเมืองปัตตานี จว.ปัตตานี พร้อมแจ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 ผู้ต้องหาคนดังกล่าว ก็ได้ทักข้อความส่วนตัวในเฟซบุ๊กมาอีกว่า จะขอยกเลิกการสั่งมะม่วงอีก 5 กก. ที่เหลืออยู่ และขอให้โอนเงินคืนไปยังบัญชีธนาคารเดิม ของผู้ต้องหา เป็นจำนวนเงิน 449 บาท ผู้เสียหายก็โอนเงินดังกล่าวไป ซึ่งต่อมา ผู้เสียหาย เริ่มรู้สึกแปลกใจกับการยกเลิกออเดอร์ดังกล่าว จึงได้ให้แอดมินเช็ค QR Code ในสลิปโอนเงินที่ลงวันที่ 13 ก.พ.66 เวลา 08.39 น. จำนวนเงิน 1,178 บาท พบว่าในระบบขึ้นเป็นสลิปโอนเงินจำนวน 0.01 บาท ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความ ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที และเดินทางเข้าให้ปากคำต่อ พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับคนร้ายให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว คนร้ายตั้งใจใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการหลอกลวงประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริต โดยการใช้เอกสารสลิปโอนเงินปลอมไปหลอกลวงผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊ก เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน เกิดความระแวงไม่ไว้ใจในการทำธุรกรรมใดๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีมิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมที่ตั้งใจจะหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ทุกรูปแบบ อาทิ สั่งซื้อของไม่ได้ของ สั่งซื้อของแล้วไม่ได้ตามปก หลอกชักชวนให้ลงทุนต่างๆ ฯลฯ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยผู้เสียหายได้มีการแจ้งความผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.thaipoliceonline.com ทำให้ประชาชนเกิดความสะดวกในการแจ้งความร้องทุกข์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้โดยรวดเร็ว