จบการหารือ ปัญหาค้ามนุษย์แล้ว สหรัฐ ชมไทย มีความมุ่งมั่น ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาตามข้อเสนอแนะ
หลังจากคณะผู้แทนไทย โดยนายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้เข้าหารือกับ นางมาเซีย ยูจีนิโอ ผอ.สำนักงานการค้าแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ และนายแมท เลวิน ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าระหว่างประเทศและกิจการแรงงาน ณ กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา
โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำเสนอถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทที่มีการใช้แรงงานข้ามชาติ แต่ไม่ได้ดูแลสวัสดิการและการให้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า เช่นกรณีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งได้รับคำชื่นชมว่า มีการบูรณาการแก้ปัญหาที่ดี โดยมีการบังคับใช้กฎหมายทั้งในคดีอาญา ควบคู่ไปกับคดี พรบ.คุ้มครอง แรงงาน เพื่อให้แรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ได้เข้าถึงสิทธิที่ควรได้รับจากการทำงานในประเทศไทย
ส่วนการคัดกรองแรงงานภาคการประมง แบบมีมาตรฐานเดียวกัน สหรัฐมองว่ายังมีขั้นตอนที่ดูยุ่งยาก แนะนำให้มีการปรับลดแบบสอบถาม เพื่อลดขั้นตอนลงเนื่องจากการนำเสนอที่ผ่านมา พบว่ามีการคัดกรองในปริมาณที่มาก แต่สัดส่วนที่ผ่านการคัดกรองกลับมีน้อยมาก ทั้งยังแนะนำให้ไทย ไปศึกษารายละเอียดการเขียนรายงาน จากประเทศปานามาและจอร์แดน ซึ่งสอบผ่านจนสามารถ ปลดล๊อคการส่งออกสินค้าได้สองรายการคือสิ่งทอ และอ้อย
นอกจากนี้ ยังได้มีการเข้าพบกับนายคริษฐ์ สมิทธ สมาชิกผู้แทนราษฎรจากรัฐ นิวเจอร์ซี่ ผู้วางรากฐานกฎหมายด้านการต่อต้านค้ามนุษย์ และการคุ้มครองเด็ก โดยไทยได้นำเสนอถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาทุนสีเทา ซึ่งมีการดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีเฝ้าระวังการเข้ามาก่อเหตุซ้ำ และมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินและดำเนินคดีตามขั้นตอนทางภาษี นี่ทำให้สหรัฐ ถึงกับแสดงความชื่นชมถึงความมุ่งมั่นในการปราบปรามของประเทศไทย
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากนี้ไปจะกลับไปเสนอออกกฏหมายเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง เพื่อให้ไทยเป็นผู้นำด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ในระดับอาเซียน ตามข้อเสนอแนะของสหรัฐอเมริกา
โดยจะใช้มาตรการในการป้องกันมากกว่าการปราบปราม เน้นการอบรมและการมีส่วนร่วมของชุมชน เช่นทำงานร่วมกับการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ ในการสอดส่องคัดกรองผู้เดินทางจากทั่วทุกภูมิภาค รวมไปถึงการให้ผู้นำชุมชน เข้ามาร่วมสอดส่องดูแลปัญหา โดยนำกลไก บวร. คือ บ้าน วัด โรงเรียน เข้ามาขับเคลื่อน จะได้ไม่เกิดกรณีเด็กหาย ในพื้นที่บางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซ้ำอีก
นอกจากนี้ จะฝึกอบรมพนักงานโรงแรมเพื่อให้มีศักยภาพ ในการช่วยคัดกรองสอดส่อง เพื่อไม่ให้เกิดการนำเด็กหญิงและเด็กชาย มาค้ามนุษย์หรือถ่ายคลิปวิดีโอโป๊ หรือ อนาจาร ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดนี้ จะทำให้คนร้าย มีโอกาสกระทำการค้ามนุษย์ และอนาจารเด็กน้อยลง