เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 2 มี.ค.66 ร.ต.อ.กฤษฎิ์ สิทธิสร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทย์สภ.ฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถแวนพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ตรงข้ามโรงเลือยหมู่ 5 ต.ลาดหญ้า หลังรับแจ้ง จึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.เตชินทร์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า ทราบเรื่อง
จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าในที่เกิดเหตุ มีรถแวนมิตซูมิตชิสีบรอนท์เทา หมายเลขทะเบียน กม-1353นครสวรรค์ จอดอยู่ริมถนนในสภาพพังยับทั้งคัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์จุดรอรับเหตุสำนักงานใหญ่ ร่วมกับจุดรอรับเหตุทุ่งสะพานหิน และจุดรอรับเหตุกรมทาง จุดรอรับเหตุ ต.ลาดหญ้า และอีกหลายจุดรอรับเหตุ ระดมสรรพกำลังเดินทางมาช่วยเหตุนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 10 ราย ส่ง รพ.ฯ เป็นผู้ชาย 4 ราย ผู้หญิง 5 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นผู้ชาย
ตรวจสอบรายเอียดที่ รพ.พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จำนวน 4 ราย ไม่สาหัส 3 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 1 ราย เสียชีวิตที่เพิ่มที่ รพ.อีก 1 รายเป็นเด็กผู้ชาย อุบัติเหตุครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 4 ราย ไม่สาหัส 3 ราย เจ็บเล็กน้อย 1 รายแพทย์อนุญาติให้กลับบ้านได้ 1 ราย เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย เสียชีวิตเพิ่มที่ รพ.ฯ อีก 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 2 ราย
เบื้องต้นจากการสอบสวนทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พูดภาษาไทยไม่ได้ และไม่มีเอกสารอะไรที่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นคนไทย หรือชาวเมียนมา สอบถามผ่านล่ามทราบว่าเป็นชาวโรฮิงญา ที่ว่าจ้างคนขับรถซึ่งเป็นคนไทยสมาชิกของขบวนการขนแรงงานเถื่อนลักลอบเข้าเมือง และหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนติดตามจับกุมตัว ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า รถได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง คนขับเกิดหลับใน พอมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดพุ่งตกข้างทางไปเสียหลักชนก้อนหินก่อนจะพลิกคว่ำทำให้ชาวโรฮิงญาผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากดังกล่าว
มีรายงานข่าวว่า บุคคลต่างด้าวชาวโรฮิงญา และชาวเมียนมาได้ว่าจ้างให้ขบวนการขนแรงงานเถื่อนนำพาลักลอบเข้าเมืองเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติในหลายอำเภอ มาซุกซ่อนตามเซฟเฮ้าท์ในเขตตัวเมืองกาญจน์ และรอจังหวะให้นายจ้างติดต่อ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเอกสารใบอนุญาตการเข้าเมืองและทำงานอย่างถูกต้อง เรียกว่าธุรกิจมืดในพื้นที่ จ.กาญจน์ กำลังอู้ฟู้ สร้างรายได้ให้กับเจ้าหน้าที่ใน 2 หน่วยงาน บางคน อย่างมหาศาลในแต่ละเดือนก็ว่าได้
