คืบหน้า โจ๋วัยรุ่นนับ 10 รุมฟันคู่อริหวิดมือขาด

วันที่ 27 ก.พ.2566 เวลา 10.00 น.ที่ สภ.ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จากกรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.พ.66 เวลา ประมาณ 23.30 น. กลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน ขี่รถจยย. 6-7คัน ก่อเหตุทำร้ายร่างกายใช้มีดฟันคู่อริ 2 คน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย หวิดมือขาด ส่วนอีกคนวิ่งหนีรอดหวุดหวิด เหตุเกิดบริเวณริมถนนหน้าโรงสีไทยไฟเจริญกิจ ม.1 ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี คนเจ็บทราบชื่อคือ นาย ชลิต หรือบาส นรเหรียญ อายุ 18 ปี ถูกฟันที่ข้อมือซ้ายและตามร่างกายจำนวนหลายแห่ง

นาย ฮัด (สงวนชื่อนามสกุล) (คนถือมีดในคลิป) สวมเสื้อฮู้ดสีน้ำเงิน อายุ 17 ปี เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองและกลุ่มเพื่อนราวม 10 กว่าคนออกไปขี่รถดูไฟข้างทางกัน แต่ตอนที่คู่กรณีมาหาเรื่องนั้น เป็นตรงสามแยกวัดไทรใหญ่ โดยตนนั่งซ้อนท้ายรถมากับเพื่อนอีกสองคน คือ นาย โอ้ อายุ 15 ปี (นั่งกลาง) และ นาย พัฒ อายุ 15 ปี (คนขับ) โดยขี่รถมาเพียงคันเดียว จากนั้นเห็นคู่กรณีขี่รถจยย.มา 1 คัน เข้ามาจอดข้างๆกับตนโดยมากัน 2คน และคนซ้อนได้ควักอาวุธปืนออกมาพร้อมกับพูดข่มขู่พวกตนว่า “จะเอารึเปล่า” ก่อนที่คู่กรณีจะยิงใส่ตน 2 นัด แต่ไม่โดน กระสุนไปโดนรถจยย.แทน ลูกกระสุนยังคาอยู่ในรถอยู่เลย ตอนนั้นตนตกใจมากโชคดีที่ยิงไม่โดน ในตอนนั้นพวกของตนอีก10กว่าคนที่อยู่ด้านหลังเห็นจึงรีบพากันออกมา พอคู่กรณีเห็นจึงได้รีบขับรถหนี แต่รถของคู่กรณีก็มาล้มแถวๆแยกโรงสี ตนและพวกจึงใช้มีดไล่ฟันคนที่ยิง ส่วนอีกคนวิ่งหนีไปทันคิดว่าคงปีนกำแพงข้ามไปอีกฝั่ง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ตนยอมรับว่าตนพกมีดออกมาแบบนี้เพราะเอามาป้องกันตัวแค่นั้น ก่อนหน้านี้เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนแล้วขี่รถอยู่แล้วก็มีคนมาหาเรื่อง ก็ต้องมีอะไรเอาไว้ป้องกันตัวเวลาขี่รถออกมาแบบนี้ ส่วนกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันก็ไม่ได้สนิทกันด้วย ที่รู้จักกันก็มีเฉพาะ 5 คนที่มาวันนี้เท่านั้น

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไทรน้อย ทราบตัวผู้ก่อเหตุ 6 ราย และนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมบันทึกลายนิ้วมือ โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน อายุตั้งแต่ 15 – 18 ปี ซึ่งทั้งหมดยังคงปฏิเสธพร้อมนัดคู่กรณีเข้ามาพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ ตร.จะเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป