รวบอดีตแฟน ‘มายด์ วรัญรภัสส์’ เน็ตไอดอลดัง ร่วมตุ๋นลงทุนทองคำ มูลค่าเสียหายกว่า 200 ล้าน

กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนําโดย พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป. และ พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นางสาวจิรัฐฏนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสงขลา โดยกล่าวหาว่า กระทําความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนํา เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2695/2565 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2565

สถานที่จับกุม ท่าอากาศยานแห่งหนึ่ง ตําบลหนองปรือ อําเภอบางพลี จังหวัดสมทุรปราการ

พฤติการณ์กลุ่มผู้ต้องหาขณะน้ันได้คบหาเป็นแฟนกัน ได้ร่วมกันโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ FACEBOOK ชักชวนคนมาร่วมลงทุนซื้อขายทองคําแท่ง โดยอ้างว่าสามารถซื้อทองคําแท่งที่ราคาต่ํากว่าราคาตลาด เมื่อซื้อแล้วจะนําไปขาย โดยแบ่งกําไรเป็นทอดๆ ซึ่งช่วงแรกกลุ่มคนที่ร่วมลงทุนได้กําไรจากเงินส่วนต่างจริง ทําให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ กลุ่มผู้ต้องหาจึงหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่จากนั้นก็ไม่ได้รับทองคําหรือกําไรตามที่แจ้ง

ในคดีนี้มีผู้เสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดําเนินคดีไว้หลายแห่ง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ อายุ 30 ปี เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมแล้วที่คอนโดแห่งหนึ่ง ที่เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจกองกํากับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ดําเนินการสืบสวนจนทราบว่า นางสาวจิรัฐฏนันท์ฯ หรือแน๊ตผู้ต้องหานี้ไดเ้ดินทางไปทํางานชั่วคราวที่ประเทศเกาหลีใต้จึงได้ทําการสืบสวน เพิ่มเติมจนทราบว่า นางสาวจิรัฐฏนันท์ฯ จะเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ประสาน กับเจ้าหน้าที่ตํารวจท่องเที่ยวสนามบิน และเจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานดังกล่าว เพื่อเข้าจับกุมผู้ต้องหานี้ จากนั้นเมื่อตรวจสอบบริเวณห้องโถงผู้โดยสาร ฝ่าย ตม.ขาเข้า โซนตะวันตก ชั้น 2 ท่าอากาศยานดังกล่าว

พบบุคคลต้องสงสัยลักษณะรูปพรรณสัณฐานตรงกับผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตํารวจ ชุดจับกุมจึงได้แสดงตน ให้แก่บุคคลดังกล่าวทราบ และขออนุญาตตรวจสอบหนังสือเดินทาง และบัตรประจําตัวประชาชน เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง จึงได้แสดงหมายจับ ให้ดูและให้อ่านเองจนเป็นที่พอใจ จากการสอบถาม นางสาวจิรัฐฏนันท์ฯ ยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกัน ตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกดําเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ ของผู้ต้องหาตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบและเข้าใจดีแล้วเจ้าพนักงานตํารวจชุดจับกุมจึงนําตัวผู้ถูกจับมาทํา บันทึกการจับกุม ณ กก.6 บก.ป. แล้วนําตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป