ตร.เทพสถิต รวบแก๊งขโมยเครื่องมือการเกษตร จับแล้ว 4 หลบหนี 1

ตำรวจเทพสถิต รวบโจรขโมยเครื่องมือการเกษตรยกแก๊ง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเครื่องคูโบต้า, รถไถนาเดินตาม, ตลอดจนเครื่องมือทางการเกษตรถูกขโมยอย่างต่อเนื่อง ตำรวจอำเภอเทพสถิตโชว์ฝีมือสุดเจ๋ง รวบแก็งขโมยเครื่องมือทางการเกษตรของกลางล้นโรงพัก จับได้ 4 หนีได้ 1 ประกาศใครคิดว่าเป็นของตนเองนำหลักฐานติดต่อขอรับคืนได้

สภ.เทพสถิต ได้มีการจับโจรตะเวนขโมยเครื่องคูโบต้าและเครื่องการเกษตรได้ยกแก๊งโดย พ.ต.อ.เรวัตร ยวงอักษร ผกก.สภ.เทพสถิต อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศุภกร ประนิทานัง รอง ผกก.สส.สภ.เทพสถิต พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน เข้าจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ได้ จำนวน 4 ราย ส่วนอีกหนึ่งราย ไหวตัวทันได้หลบหนีออกจากพื้นที่หนีไปต่างจังหวัด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง โดยการทลายแก๊งขโมยเครื่องมือการเกษตรนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายกว่า 20 ราย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีแก๊งขโมยเครื่องสูบน้ำ, เครื่องยนต์คูโบต้า แอบมาขโมยไป ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนแน่ชัดว่า ผู้ก่อเหตุมีจำนวน 5 ราย ทั้งที่มีคดีติดตัวและพึ่งพ้นโทษออกมา จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมและขยายผล ขณะที่นายประทีป เพียมะรัง กำลังลำเลียงอุปกรณ์ทางการเกษตรซึ่งประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำจำนวน 1 เครื่อง เครื่องคูโบต้าที่ใช้ประกอบรถการเกษตรจำนวน 5 เครื่อง ชุดผานไถขุดดินพรวนดินจำนวน 2 ชุด ขับรถเพื่อการเกษตร เข้ามาจอดบริเวณหน้าพัก ตำรวจได้เข้าแสดงตนและจับกุมได้คาหนังคาเขา โดยของกลางทั้งหมดถูกบรรทุกมาในรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง มีผ้าใบคลุมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง ในครั้งแรกนายประทีป ให้การปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดที่นำมาวางไว้บนรถ แต่ต่อมาได้รับสารภาพเพราะจำนงค์ด้วยหลักฐาน พร้อมให้การซักทอดถึงผู้ร่วมขบวนการซึ่งมีทั้งหมด 5 คน รวมทั้งนายประทีปด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้ เร่งติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุซึ่งสามารถควบคุมตัวได้เพิ่มมาอีกจำนวน 3 รายคือ นายสุเนตร ชาวอำเภอบำเหน็จณรงค์ นายสมาน ชาวอำเภอบำเหน็จณรงค์ นายนุกูล ชาวอำเภอเทพสถิต ส่วนนายอาท (ไม่ทราบชื่อจริง) เพื่อนร่วมแก๊งอีกคนไหวตัวทันได้หลบหนีออกจากบ้านพักไปต่างจังหวัด ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเดินทางไปถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด พร้อมของกลาง ซึ่งมี

1.เครื่องสูบน้ำจำนวน 1 เครื่อง

2.เครื่องยนต์คูโบต้าจำนวน 5 เครื่อง

3.รถจัยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 คัน

4.รถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 คัน

5.รถเพื่อการเกษตรที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 คัน

6.ผานไถพรวนดินขุดดินจำนวน 2 ชุด

ทำการเก็บรักษาไว้เพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ที่สภ.เทพสถิต พร้อมทั้งประสานชาวบ้านที่เคยเข้ามาแจ้งความของหายไว้ เพื่อมาตรวจสอบว่าเป็นของตนเองที่ถูกขโมยมาหรือไม่

จากการสอบสวนเบี้องต้น ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันตะเวนลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์ประกอบรถไถนาเดินตาม, เครื่องสูบน้ำ, รวมทั้งข้าวในยุ้ง ในเขตพื้นที่อำเภอเทพสถิต อำเภอซับใหญ่ อำเภอบำเหน็จณรงค์ และอำเภอจัตุรัส และพึ่งทำมาเพียง 2-3 ครั้ง โดยจะแบ่งงานกันทำอย่างเป็นขั้นตอน ก่อนจะลงมือขโมยล่วงหน้า 1-2 วัน จะขับรถจักยานยนต์ขับไปตะเวน ดูตามหัวไร่ปลายนา และภายในหมู่บ้าน จากนั้นเมื่อประจวบเหมาะก็จะทำการขโมยทรัพย์ขึ้นใส่รถกระบะที่จอดเตรียมรออยู่ จากนั้นก็จะนำมาถ่ายทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ ใส่รถเพื่อการเกษตรขับเข้ามาเก็บไว้ในบ้านพักที่ใช้เป็นจุดพักของ ส่วนสิ่งของที่ขโมยมาได้ก็จะถูกนำไปขายตามร้านค้าต่างๆ และมีลูกค้าที่มาติดต่อซื้อโดยตรง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะพึ่งลงมือทำ และมีเพียงแก็งค์เดียว เนื่องจากบางรายพึ่งพ้นโทษออกมา บางรายยังมีคดีติดตัว นอกจากนี้ยังจะขยายผลไปยังแหล่งรับซื้อต่างๆ ซึ่งหากสืบทราบว่าเป็นที่ใดก็จะเข้าดำเนินการตรวจอย่างไว้หน้า และอาจเป็นการกระทำผิดกฏหมายรับซื้อของโจรอีกด้วย

นายยงยุทธ อายุ 50 ปี อยู่หมู่ที่ 15 บ้านเขาวงพระจันทร์ ตำบลห้วยยายจิ๋ว อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ยอมรับว่าในยุ้งข้าวของตนถูกขโมยข้าวเหนียว 9 กระสอบ ข้าวเจ้า 4 กระสอบ รวม 13 กระสอบ โดยได้ไปแจ้งความไว้ประมาณ1สัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะตนไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา จะมีเพียงคนเฒ่าคนแก่เท่านั้นเฝ้าบ้าน ถือว่าครั้งนี้โชคดีที่โดนขโมยเพียงข้าว ส่วนครั้งต่อไปเกรงว่าอาจถูกขโมยเครื่องยนต์ และรวมไปถึงการทำร้ายร่างกายด้วยก็เป็นได้ โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่รวบตัวโจรแกงค์นี้ได้เสียก่อนแต่ก็ยังไม่สนิทใจเพราะยังจับไม่ได้หมดหวั่นจะหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกก็เป็นได้วอนให้ตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย