ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บุกรวบสองผัวเมีย ตระเวนงัดเซฟปั๊มน้ำมัน กว่า 30 ปั้ม ทั่วภาคอีสาน

กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ศราวุธ ทองน้อย สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ดังนี้คือ

  1. น.ส.ภูสนิสาฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 44/2566 ลง 3 ก.พ. 66 สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 12 ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 06.30 น.
  2. นายมารุตฯ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 445/2566 ลง 3 ก.พ.66 สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ม. 8 ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 06.30 น.

ฐานกระทำความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป”

พฤติการณ์ ด้วยเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับเรื่องร้องเรียน
ว่ามีแก๊งโจรกรรมงัดตู้เซฟปั๊มน้ำมัน ที่ได้ตระเวนก่อเหตุ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 ถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคอีสานกว่า 30 แห่ง โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เป็นเหตุให้ชาวบ้านได้รับความเดือด สร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. และชุดสืบสวน เร่งติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้ประสานข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ กว่า 30 แห่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง เพื่อถอดแผนประทุษกรรม พบว่ามีแผนประทุษกรรมการก่อเหตุแบบเดียวกันถึง 26 เคส โดยคนร้ายกลุ่มนี้ได้วางแผนเลือกเวลาก่อเหตุ มีการอำพรางตัว สวมถุงมือ ปกปิดใบหน้า เลือกปั๊มน้ำมันที่ไม่มีกล้องวงจรปิด และมีความชำนาญในเส้นทางการก่อเหตุ ด้วยเทคนิควิธีการดังกล่าว จึงทำให้ระบุกลุ่มคนร้ายได้ยาก

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้นำระบบฐานข้อมูล Big data มาใช้ในการตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ ที่เข้าในพื้นที่เกิดเหตุ กว่า 20,000 คัน และคัดกรองกลุ่มบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องกับปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ จนพบกลุ่มบุคคลที่น่าสงสัย จำนวนกว่า 200 คน

ต่อมาวันที่ 23 มกราคม 2566 คนร้ายได้ก่อเหตุอีกครั้งที่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ทำการสืบสวนจนพบรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งเข้ามายังที่เกิดเหตุ จึงได้ติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา พบว่า น.ส.ภูสนิสาฯ เป็นผู้จัดการปั๊มน้ำมัน แห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน ได้ก่อเหตุร่วมกับสามี โดยขับขี่รถยนต์ ออกมาในเวลากลางคืน เพื่อตระเวนหาปั๊มน้ำมันที่อยู่ห่างไกลจากบ้านพักมาหลายร้อยกิโล เมื่อถึงปั๊มน้ำมันเป้าหมาย น.ส.ภูสนิสาฯ จะจอดรถยนต์อยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อดูต้นทาง และรอรับสามี ในระหว่างที่สามี เข้าไปงัดตู้เซฟ ก่อนจะเชิดเงิน และขับรถหลบหนีไป

ต่อมาภายหลัง ได้มีการก่อเหตุในลักษณะเช่นเดียวกันอีก ในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนพร้อมกันใน 3 พื้นที่ดังกล่าว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. จำนวนกว่า 50 นาย จนได้ข้อมูล พยานหลักฐาน ที่สอดคล้องกันจนเชื่อได้ว่า 26 เคสก่อนหน้านี้ คนร้ายที่กระทำความผิดคือกลุ่มเดียวกัน จึงได้ทำการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา และหมายค้นต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ด และศาลอนุญาตตามคำขอ

ต่อมาวันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2566) เวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ได้นำกำลังลงพื้นที่เป้าหมายเข้าจับกุมคนร้ายในพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ตัดเหล็กที่ใช้ในการงัดแงะตู้เซฟ, ถุงมือที่ใช้ก่อเหตุ,หมวกกันน็อค, กล้อง CCTV ที่ลักเอามาจากที่เกิดเหตุ ,รถยนต์ ,รถจักรยายนต์ ,โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ รวมจำนวนหลายรายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดำเนินการขยายผลเพื่อพิสูจน์การกระทำความผิดทั้งหมด แล้วจะได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาทั้งสองเบื้องต้น รับว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ปั๊มน้ำมันจริง เป็นจำนวน 10 แห่งเป็นอย่างน้อย โดยอ้างมูลเหตุจูงใจว่านำไปชำระหนี้นอกระบบ