เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ที่จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 หน.ชป.ปส.ภ.7 พร้อมด้วยตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.รณภพ พรอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำป่าเชื้อ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ ร้อง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.กัปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว, พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.ธนบดี บุญพา นักวิทยาศาสตร์(สบ๔) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์ หลักฐาน 7 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ภาย พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส..ภ.7 และ พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 กก.สส.ภ.7 ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กำธร อุ่ยเจริญ ผบก.ศพธู.7 และ พ.ต.อ.ธนบดี บุญพา นักวิทยาศาสตร์(สบ4 )กสก.ศพธู.7 นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ทลายแก๊งยาเสพติด จำนวน 12 ราย
พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวสีดำขนาด 12 เกจ ยี่ห้อวินเชสเตอร์ อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อกล๊อค 43 X สีดำ ขนาด 9 มม.อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อกล๊อค สีขาว-ดำ ขนาด 9 มม.อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ รTI สีขาว ขนาด .45 อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ยี่ห้อสมิทแอนเวสสัน สีขาว ขนาด .357 อาวุธปืนลูกซองยาวยี่ห้อ DERYA ขนาด 12 เกจ สีดำอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก 26 สีดำ ขนาด 9 มม.อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ยี่ห้อ RUBY EXTRA ขนาด .38 สีดำอาวุธปืนยาวดัดแปลง จำนวน 1 กระบอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 12 นัดซองบรรจุกระสุนปืนกล็อค ขนาดบรรจุ 30 นัด กระสุนปืนจำนวน 167 นัดโทรศัพท์มือถือจำนวน 16 เครื่องยาบ้า รวมทั้งหมด 951,071 เม็ด, ยาไอซ์ 1,140 กรัมรถยนต์คันยี่ห้ออีซีซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ สีขาวพร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด ดังนี้ รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีขาว รถยนต์ BMW รุ่น ๓๒๐ D สีขาว รถยนต์อีซุซุ MU-X สีขาว รถยนต์ฮอนด้าชีวิ สีแดง บัญชีธนาคารกสิกรไทย มีเงินสดกว่า ล้านบาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา
โดยแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาแต่ละราย ผู้ต้องหาที่ 1 กระทำผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 2 กระทำผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาข้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า/ไอซ์) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยมีอาวุธปืน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยผิดกฎหมาย”
ผู้ต้องหาที่ 3 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 4 กระทำผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาข้า/ไอซ์ โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยมีอาวุธปืน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 5 กระทำผิดฐาน”ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 6 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 7 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 8 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 9 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาข้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาข้า/ไอซ์ โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยมีอาวุธปืน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 10 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า/ไอซ์) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยมีอาวุธปืน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 11 กระทำผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาที่ 12 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
พฤติการณ์แห่งคดีก่อนเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า บ้านเลขที่ 88/26 หมุ่ที่ 2 ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายค้นต่อศาลจัวหวัดนครปฐม ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมได้อนุมัติหมายค้นที่ ค.29/2566 ลงวันที่ 25 มกราคม 2566ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาทั้ง 12 รายอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยน.ส.พิมลวรรณ อ้อกอง แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น และทำการตรวจค้น โดยมี น.ส.พิมลวรรณฯ นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอาวุธปืน (ของกลางลำดับที่ 1-6 ) และยาบ้า จำนวน 71 เม็ด ชุกช่อนภายในบ้านหลังดังกล่าว
จากนั้นได้ตรวจค้นรถยนต์ จำนวน 8 คันที่จอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นรถยนต์คันยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ สีขาว พบอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก 26 สีดำ ขนาด 9 มม. (ของกลางลำดับที่ 7 ) จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 12 รายพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสภ.โพธิ์แก้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาราย นายพิรุนห์ แย้มเดช, นายประกาย ศักดิ์ มะโนบุตร, นายกฤษฎา ทิมซ้อน และ นายสหภาพ สมัคราช ให้การรับสารภาพว่ายังมียาเสพติดที่ซุกช่อนอยู่ ในบ้านเช่าที่เช่าไว้เพื่อเก็บยาเสพติดอีก และสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจกันจำนวน 6 จุดโดยจุดที่ 1 นำตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 2 หมู่บ้านร่วมเกื้อ แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานครผลการ ตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 553,000 เม็ด และ ยาไอซ์ จำนวน 1,140 กรัม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.โพธิ์แก้ว และเข้านำตรวจค้น จุดที่ 2 บ้านเช่าเลขที่ 44/271 ม.1 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม ผลการตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 398,000 เม็ด และอาวุธปืนยาวดัดแปลง จำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.โพธิ์แก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
