ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.ณัฏฐ์ สุวรรณวัฒนะ, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.ภคพล สุชล, พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รอง ผกก.5 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง, พ.ต.ท.อภิชา เทพจันทร์ สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม
1. นายนิวัฒน์ หรือโม (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 235/2566, 236/2566, 240/2566, 243/2566 และ 247/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566
2. น.ส.ธัญชนก หรือแอน (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 234/2566, 237/2566, 241/2566, 244/2566 และ 248/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566
3. นางนิตยา หรือเจ๊ปลา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 239/2566 และ 249/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566
4. น.ส.มณีศิริวรรณ หรือก้อย (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 246/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566
5. นายกิตติวัฒน์ หรืออั้ม (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 242/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ซึ่งการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี
โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบ, ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ซึ่งการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสินห้าปีแต่ไม่ถึงสินแปดปี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้น กระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม โดยเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี, ร่วมกันชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด, ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม โดยเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆโดยการช่วยเหลือให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี โดยทุจริตร่วมกันรับไว้ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปซึ่งบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้าประเวณีเด็กฯ และได้ทำการสืบสวนขยายจนทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ต่อมาถูกเจ้าของร้านคือ นายนิวัตน์ฯ และ น.ส.ธัญชนกฯ ล่อลวงให้ผู้เสียหายยอมขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า โดยอ้างว่าที่ร้านมีลูกค้ามาใช้บริการทางเพศจำนวนมาก และรับประกันรายได้ที่ร้าน 3,000 – 7,500 บาทต่อวัน ผู้เสียหายจึงยินยอมขายบริการทางเพศ ในช่วงเดือน มี.ค. 64 ถึงเดือน เม.ย. 65 ซึ่งภายหลัง นายนิวัฒน์ฯ ได้ลวงผู้เสียหายให้มาเป็นเมียน้อยตนเองอีกด้วย
หลังจากนั้นได้มีร้านคาราโอเกะในพื้นที่ ถ.มหาราช ต.ปากน้ำ จ.กระบี่ ซึ่งมี นางนิตยาฯ และ น.ส.มณีศิริวรรณฯ (ลูกสาวนางนิตยาฯ) เป็นเจ้าของจัดการดูแลร้าน ทราบข่าวว่า ทีร้านของนายนิวัตน์ฯ มีเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานอยู่ที่ร้าน จึงได้ติดต่อเข้ามาขอยืมตัวเพื่อนำไปให้ลูกค้าที่ร้านคาราโอเกะของตนใช้บริการทางเพศ ในราคาเหมาค้างคืน 4,000 บาท โดยนางนิตยาฯ จะหักเงินค่านายหน้าไว้จำนวน 2,000 บาท จากนั้นนางนิตยาฯ ได้ให้ น.ส.มณีศิริวรรณฯ ขับรถไปรับผู้เสียหาย และไปส่งให้กับลูกค้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองกระบี่
นอกจากนี้ยังมี นายกิตติวัฒน์ฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในพื้นที่ว่าสามารถจัดหาเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศได้ ในแต่ละครั้งนายกิตติวัฒน์ฯ จะเข้ามารับผู้เสียหายที่ร้านเหล้าของนายนิวัฒน์ฯ เพื่อพาไปส่งให้กับลูกค้าที่เข้ามาติดต่อซื้อบริการทางเพศเด็กที่โรงแรม ในราคา 2,000 บาท โดยผู้เสียหายจะโดนหักค่าตัว 1,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถอนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ทั้ง 5 ราย
ต่อมาวันที่ 25 ม.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น
– นายนิวัฒน์ฯ และ น.ส.ธัญชนกฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ลวงให้ผู้เสียหายมาค้าบริการจริงและหักค่านายหน้าจากผู้เสียหายทุกครั้ง
– นางนิตยาฯ และ น.ส.มณีศิริวรรณฯ ให้การภาคเสธ รับว่าร้านคาราโอเกะเป็นของตนเองจริงมีลูกค้าเข้ามาติดต่อหาเด็กรับงานบริการทางเพศจึงได้นำผู้เสียหายไปส่งให้กับลูกค้าจริง แต่ไม่ทราบว่าผู้เสียหายอายุต่ำกว่า 18 ปี
– นายกิตติวัฒน์ฯ ให้การรับสารภาพว่าได้พาผู้เสียหายไปส่งให้กับลูกค้าที่โรงแรมจริง
