ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐปราบปรามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด เนื่องจากเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง และเป็นต้นเหตุของการเกิดอาชญากรรมในสังคม อันจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัด กวดขัน สืบสวน ปราบปรามจับกุม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหา มุ่งเน้นข้อหาความผิด
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์, พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง, พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ โดย พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ, พ.ต.อ.โรจนินทร์ ทองใบ, พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล และ พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช รอง ผบก.สปพ.
กองกำกับการสายตรวจ โดย พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ, พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี และ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ และ ว่าที่ พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกยมวงษ์เจริญ สว.งานสายตรวจ 3 ร่วมกันแถลงผล
การจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายยาเสพติด
ตรวจยึด วันที่ 24 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 17.30 น. ภายในร้านเบส เอ็กเพลส แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุม ต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 55/160 ซ.ประเสริฐมนูกิจ ๔๒ ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย
ผู้ต้องหาที่ 1 นายถาวร หรือวร อายุ 44 ปี
ผู้ต้องหาที่ 2 นายเปเล่ หรือเล่ อายุ 47 ปี
ผู้ต้องหาที่ 3 นางสาวสุพรรณี หรือส้ม อายุ 40 ปี
ผู้ต้องหาที่ 4 นายวัลลภ หรือมัส อายุ 37 ปี
ผู้ต้องหาที่ 5 นายสิงห์ณรงค์ หรือสิงห์ อายุ 56 ปี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ผู้ต้องหาที่ 1-5 ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน , ผู้ต้องหาที่ 4 มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด
2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 6.33 กิโลกรัม
3. อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 3 กระบอก
4. รถยนต์ จำนวน 6 คัน
5 รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน
พฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สืบสวนเครือข่ายยาเสพติดนายวัลลภ หรือบังมัส จนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 สามารถจับกุมนายดลพร หรือเจต กับพวกรวม 2 คน พร้อมยาเสพติดของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 841,800 เม็ด ไอซ์ จำนวน 9 กิโลกรัม ซึ่งเป็นยาเสพติดที่กำลังจัดส่งกระจายไปสู่ผู้ค้ารายย่อยผ่านทางระบบขนส่งพัสดุเอกชน โดยส่วนมากจะกระจายไปสู่จังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย โดยการจับกุมครั้งนั้นได้ขยายผลพบข้อมูลยืนยันว่ามีนายวัลลภ หรือบังมัส เป็นหัวหน้าเครือข่ายระดับสั่งการ ที่ควบคุมการรับยาเสพติด เก็บซุกซ่อน รวมถึงการกระจายจัดส่งยาเสพติดไปให้กับผู้ค้ารายย่อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามเครือข่ายนายวัลลภ หรือบังมัส เรื่อยมา จนพบว่าเครือข่ายดังกล่าวนี้ยังไม่ได้หยุดความเคลื่อนไหว พบข้อมูลทางการสืบสวนเชื่อว่ายังมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดโดยการส่งพัสดุกระจายยาเสพติดไปทางจังหวัดภาคใต้อยู่ จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 พบกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดนี้ได้ใช้รถยนต์ตู้ ขนกล่องพัสดุ กำลังจะไปส่งร้านพัสดุ ย่านนวลจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าภายในกล่องพัสดุเป็นยาบ้า จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ เม็ด ยาไอซ์ จำนวน ๒ กิโลกรัม โดยกล่องพัสดุระบุชื่อและที่ผู้รับในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ และทำการจับกุมนายถาวร , นายเปเล่ และน.ส.สุพรรณี ผู้ต้องหาจำนวน ๓ คน ที่นำพัสดุดังกล่าวมาส่ง โดยทั้งหมดให้การตรงกันว่ามีนายวัลลภ หรือบังมัส เป็นผู้สั่งการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขยายผลเข้าไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 55/160 ซึ่งได้สืบสวนทราบมาก่อนแล้วว่านายวัลลภ หรือบังมัส ได้หลบซ่อนอยู่และอาจใช้เป็นสถานที่ในการซุกซ่อนยาเสพติด ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในบ้าน เป็นยาไอซ์อีกจำนวน 3.5 กิโลกรัม และสามารถทำการจับกุมตัวนายวัลลถ หรือบังมัส ได้ภายในบ้านดังกล่าว พร้อมอาวุธปืนพกสั้นพร้อมกระสุน จำนวน 3 กระบอก และยังจับกุมนายสิงห์ณรงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด
จากการสืบสวนก่อนจับกุมทราบว่านายวัลลภ หรือบังมัส ครอบครองรถยนต์จำนวนมาก และมักจะนำมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนใช้งานในการรับส่งยาเสพติดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการตรวจค้นและติดตามตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์ของนายวัลลภ หรือบังมัส ได้เป็นรถยนต์จำนวน 6 คัน และจักรยานยนต์ 3 คัน และตรวจยึดยาไอซ์เพิ่มเติมจากรถยนต์ที่ทำการตรวจยึด อีก 830 กรัม โดยดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191
