ตำรวจ ปส. ทลายเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ จับกุมผู้ต้องหา 3 คดี ของกลางรวมกว่า 1.1 ตัน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./ ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. และ พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้สืบสวนหาข่าว เครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกระดับ เพื่อจะตัดวงจรการลักลอบลำเลียงยาเสพติด รวมไปถึงจับกุม และขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน รวมทั้งส่งออกไปยังประเทศที่สาม เน้นย้ำ ในการสืบสวนหาข่าวเครือข่ายหน้าใหม่ รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายเก่า ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่ง บช.ปส. ได้สืบสวนขยายผลจนนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องหา 3 คดี รวมไอซ์กว่า 1 ตัน 

 คดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.4 ร่วมกับศูนย์วิเคราะห์ข่าวสงขลา บก.ขส. จับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ 1.นายอาคม สุทธิโพธิ์ อายุ 27 ปี  ได้ที่ปั๊มน้ำมัน PT สาขาท่าแค ถ.เพชรเกษม ต.ท่าแค อ.เมือง จว.พัทลุง 2.น.ส.แหม่ม หมื่นบำรุง อายุ 32 ปี และ 3.น.ส.ชญาดา หมื่นบำรุง อายุ 35 ปี จับกุมได้ริมถนนสาย 41 ระหว่าง กม.128-กม.129 อ.ไชยา จว.สุราษฎร์ธานี  หลังพบว่าเมื่อวันที่ 16 ม.ค.66 กลุ่มผู้ลักลอบจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง นำไปส่งให้กับขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ และพบรถของกลาง 3 คัน หนึ่งในนั้นบรรทุกสินค้าทางการเกษตรมาเต็มคัน ขับตามกันมา กระทั่งรถบรรทุกสินค้าจอดแวะที่ปั้มพีที สาขาท่าแค อ.เมือง จว.พัทลุง ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบนายอาคม สุทธิโพธิ์ เป็นผู้ขับขี่  สารภาพว่า มียาเสพติดซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าทางการเกษตรเพื่อใช้อำพรางการตรวจค้น ส่วนรถอีก 2 คัน จับกุมได้บริเวณริมถนนสาย 41 ในพื้นที่ ต.ป่าเว อ.ไชยา จว.สุราษฎร์ธานี ตรวจยึด ไอซ์ 688 กก., รถยนต์กระบะ 3 คัน ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติดอำพรางมากับผลผลิตทางการเกษตร และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง สำหรับขบวนการนี้เป็นเครือข่ายขบวนการค้าไอซ์ข้ามชาติ มาจากทางภาคอีสาน ส่งต่อกันเป็นทอดๆ เพื่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม โดยมีขบวนการมารอรับยาเสพติดที่บริเวณชายแดน ซึ่งจะอาศัยช่วงเปิดประเทศ และประชาชนเดินทางท่องเที่ยว ประกอบกับระบบการขนส่งสินค้าเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น เพื่อเตรียมลักลอบลำเลียงไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.7 และเจ้าหน้าที่ ศรภ. กองบัญชาการกองทัพไทย จับกุม 4 ผู้ต้องหา คือ 1.น.ส.วรวรรณ หรือโรส นันทรุจินนท์ ที่หน้าร้านบิ๊กซี มินิมาร์ท ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาคร พร้อมของกลางไอซ์ 3.8 กรัม, ยาบ้า 100 เม็ด ก่อนขยายผลจับกุม 2.นายณัฐพงษ์ หรือณัฐ สมรรถบุตร ที่ ซ.จำเนียรสุข 3 ถ.เพชรเกษม แขวงวังท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง ไอซ์ 64  กรัม, 3.นายณัฐวุฒิ หรือป็อก แสนเมือง และ 4.นายนัส หรือมอส วัจนลักษณ์ ที่ หมู่บ้านจรัญวิลล่า 3 ซอยบางแวก 37 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางไอซ์ 43.285 กก. และ ผงเมทแอมเฟตามีน 660 กรัม โดยเครือข่ายนี้จากการตรวตสอบพบมีการซื้อขายยาเสพติดกันผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. และ บก.ขส. ร่วมกันจับกุม นายทวีชัย  แซ่ย้า อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เชียงของ จว.เชียงราย สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าม้ง ผู้ทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน/จัดหาคนรับจ้างลำเลียงเสพติด  ติดต่อประสานกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดประเภทยาบ้า และ ไอซ์ จำนวนมาก จากพื้นที่ภาคเหนือผ่านเข้ากรุงเทพฯ และ ปริมณฑล โดยจะลำเลียงยาเสพติดสู่ไปส่งมอบให้กับลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้างในพื้นที่ จว.สตูล และออกไปยังประเทศที่ 3 จนกระทั่งวันที่ 19 ม.ค.66 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาบ้านดู่ อ.เมือง จว.เชียงราย พร้อมตรวจยึดของกลาง (ไอซ์) จำนวน 10 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม อยู่ในห่อชาสีเขียว วางบรรทุกอยู่ในห้องโดยสารด้านหลังผู้ขับขี่ รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ MAZDA BT50 สีดำ  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด  ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อขยายผลติดตามออกหมายจับบุคคลที่หลบหนี บุคคลในเครือข่ายและ ยึดทรัพย์สิน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ต่อไป

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ร่วมกับ หน่วยข่าวกรองทางทหาร จับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ นางภคอร  (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ได้บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี  จว.นครสวรรค์ ส่วน นายกนกธัช (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี บริเวณลานจอดรถตลาดไท หลังพบว่าจะมีการลำเลียงไอซ์ จากภาคเหนือตอนบน มายังพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าววิ่งผ่านทางหลวงหมายเลขที่ 11  อ.เด่นชัย จว.แพร่ ขาเข้าผ่าน จว.อุตรดิตถ์  จึงได้จัดกำลังติดตามกระทั่ง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 ผ่าน จว.พิจิตร  มุ่งหน้าเข้า จว.นครสวรรค์  พบรถมีลักษณะบรรทุกของหนัก  จึงประสานเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจพยุหะคีรี เข้าสกัดกัดไว้ได้ ก่อนจะขยายผลจาก นางภคอรฯ  จนจับกุมคนที่มารับรถยาเสพติดอีกทอดหนึ่ง เบื้องต้นยึด ไอซ์ 84 กิโลกรัม บรรจุในถุงกาแฟสีทอง ตัวอักษรภาษาจีน และมีภาษาอังกฤษ “GUANYINWANG” พบซุกซ่อนอยู่ในตอนท้ายของรถหมายเลขทะเบียน ศณ 36X กรุงเทพมหานคร ซึ่งดัดแปลงทำเป็นช่องลับ, รถยนต์บรรทุกมีโครงเหล็ก หมายเลขทะเบียน ผอ 21XX นครราชสีมา และ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สอบสวน นางภคอรฯ ถูกว่าจ้างจากบุคคลหนึ่งซึ่งใช้แอปพลิเคชันไลน์ว่า “ฟ้าหลังฝน” ให้ตนขับรถยนต์ซึ่งซุกซ่อนยาเสพติด จากเชียงราย เข้ามายัง กทม. โดยจะมีคนรับรถคันดังกล่าวติดต่อมาอีกครั้ง ขณะที่ นายกนกธัชฯ สารภาพว่า พี่ชายคือ นายตู่ จ้างให้ตนไปรับรถที่จอดไว้ ซึ่งถูกจอดไว้บริเวณตลาดไท กระทั่งถูกจับกุมนอกจากนี้ยังระบุอีกว่า พี่ชายคือ นายตู่ (หลบหนี) เคยให้ตนไปรับรถในลักษณะแบบนี้มาประมาณ 10 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ  2,000 – 5,000 บาท  แล้วแต่ระยะทาง  โดยจะให้ขับไปจอดแต่ละจุดตามที่พี่ชายบอกโดยให้เสียบกุญแจไว้ หรือบางครั้งให้วางไว้ที่บริเวณคอนโซนหน้ารถ นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือน ต.ค.65 เป็นต้นมา พี่ชายเคยจ้างให้ตนไปส่งพัสดุที่ระบุว่าเป็นลำโพง ซึ่งจะแพ็คกล่องพัสดุพร้อมส่งประมาณเดือนละ 5-6  ครั้ง ทั้งนี้ จากการตรวจค้นรถอย่างละเอียดอีกครั้งของเจ้าหน้าที่พบไอซ์ถูกซุกซ่อนในช่องลับที่ถูกดัดแปลงใว้ใต้พื้นรถระหว่างคนขับและผู้โดยสาร อีกจำนวน 30 กก.  รวม 114 กก.

รวมตรวจยึดไอซ์ ได้ทั้งสิ้น 1,145 กิโลกรัม หรือ 1.145 ตัน ขณะที่ผู้สั่งการที่หลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามมาดำเนินคดี และขยายผลจับกุมเครือข่ายรายนี้ต่อไป