ตามนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.ให้ดำเนินการปราบปรามจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และผู้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
วันนี้(20 ม.ค.66) เวลา 14.00 น.ตม.จว.มุกดาหาร ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร, พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร, พ.ต.ต.หญิง พิมพ์ศิริ กิติวรรณ สว.กก.สส.บก.ตม.4 โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯร่วมกับ บก.สส.ภ.4, กก.สส.2 บก.สส.ภ.7, กก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเจษฎา หรือพา บุญแก้ว อายุ 54 ปี สัญชาติ ไทย ตามหมายจับ ศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.173/2557 ลงวันที่ 12 กันยายน 2557 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น” สถานที่จับกุม บริเวณที่ทำการ ตม.จว.มุกดาหาร ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
พฤติการณ์แห่งคดีและการจับกุม ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.มุกดาหาร ได้รับการแจ้งประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี ขอความร่วมมือให้ติดตามจับกุมนายเจษฎา หรือพา บุญแก้ว อายุ 55 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.173/2557 ลงวันที่ 12 กันยายน 2557 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น” หากพบบุคคลตามหมายจับดังกล่าวให้ทำการจับกุม ซึ่งจากการสืบสวนพบว่านายเจษฎา หรือพา บุญแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีไปอยู่ประเทศ สปป.ลาว และจนท.ชุดจับกุมก็ได้ติดต่อประสานกงสุลไทยสะหวันนะเขตเพื่อติดตามจับกุมตลอดเรื่อยมา
จนกระทั่งวันนี้ (20 ม.ค. 2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งประสานจากทางกงสุลไทยสะหวันนะเขตว่า จะทำการส่งคนไทยชื่อนายเจษฎา หรือพา บุญแก้ว อายุ 55 ปี ซึ่งถูกทางการ สปป.ลาวจับกุมและดำเนินคดีสิ้นสุดแล้วกลับประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปรับมอบตัวบุคคลดังกล่าวที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) และนำมาตรวจสอบตามระเบียบพิธีการเข้าเมือง
จากการตรวจสอบพบว่า นายเจษฎา หรือพา บุญแก้ว เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหัวหินดังกล่าวข้างต้นจริง จนท.ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับฯ อ่านให้ฟังและให้ผู้ถูกจับตรวจดูข้อความในหมายจับศาลจังหวัดหัวหินดังกล่าวจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จนท.จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ ผู้ถูกจับได้รับทราบสิทธิและข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ถูกจับให้การรับว่าตนเป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับที่เจ้าหน้าที่ได้แสดงต่อหน้าในขณะนั้นจริง และไม่เคยถูกดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกจับกุมและควบคุมตัวเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป