โจรแสบงัดบ้านลูกชายกำนันดัง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ กล้องวงจรปิดจับภาพได้ จึงถูกถอดเอาเมมโมรี่ การ์ดไปด้วย แต่มือถือเจ้าของบ้านยังคงบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ จึงโพสต์ลงเฟสบุ๊คตามหา มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าพบรถทะเบียนดังกล่าวจอดอยู่ที่ร้านทำเครื่องเสียงใน จ.นครพนม ขณะคนร้ายกำลังจ้างช่างเปลี่ยนเครื่องเสียง จึงนำตำรวจตามจับได้ภายใน 4 วัน ทรัพย์สินที่ถูกลักไปกว่า 4 แสนบาท ตามมาได้เกือบครบ
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 18 ม.ค.พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ได้เดินทางไปที่ สภ.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เพื่อติดตามผลคืบหน้าของคดี โดยมี พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมนุนา ผกก.พ.ต.ท.เสนีย์ ศรีโยธา สว.(สอบสอบ) เจ้าของคดี รายงานความคืบหน้าคดี จากนั้น พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ได้ตรวจสำนวนสอบสวนคดีด้วยตนเอง และสั่งพนักงานสอบสวนแก้ไขสำนวน โดยนั่งควบคุมการพิมพ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัดกุมยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ต้องหาคือ นายอนุชิต หรือน๊อต เทพสุรินทร์ อายุ 24 ปี ที่มีประวัติโชคโชน เคยกระทำความผิดติดคุกมาหลายคดี ล่าสุดขี้นไปลักทรัพย์ที่ รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองบึงกาฬ ได้เงินสดไป 24 บาท(ยี่สิบสี่บาทถ้วน) เนื่องจากเจ้าของซึ่งเป็นตำรวจได้มาพบตัวก่อนจึงถูกจับกุมได้ คดีอยู่ระหว่างประกันตัว ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหลุดรอดคดีไปได้ทุกประเด็นข้อหา ซึ่งแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นและคุ้มครองทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด ต้องยึดต้องริบรถเป็นของกลาง หากตรวจสอบแล้วรถไม่เป็นของผู้ต้องหาเอง จะต้องพิจารณาคืนให้กับเจ้าของไป ทางผู้เสียหายและตำรวจชุดสายสืบปากคาดจับกุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมยึดทรัพย์สินที่ลักไปได้เกือบครบทุกรายการ ไม่ได้คืนเพียงรายการเดียวคือสร้อยข้อมือ เนื่องจากผู้ต้องหานำไปขายที่ร้านทอง จะต้องติดตามยึดมาเป็นของกลาง และฝากบอกพี่น้องประชาชนให้ติดกล้องวงจรปิดตามบ้านด้วย ทั้งในและนอกบ้าน หากเกิดเหตุการณ์เหมือนคดีนี้ ก็จะติดตามเอาทรัพบ์สินกลับมาได้
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.59 น. คืนวันที่ 12 ม.ค.66 นายอนุชิต หรือน๊อต เทพสุรินทร์ อายุ 24 ปี บ้านอยู่เลขที่ 198 หมู่ที่ 1 บ้านหอคำ ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว รุ่น สปาร์คแคป ทะเบียน บง 6042 บึงกาฬ เข้าไปจอดข้างบ้าน จากนั้นเดินไปงัดไปตูหลังบ้านเพื่อมองหาทรัพย์สิน แต่ไปพบกล้องวงจรปิด จึงยื่นมือไปถอดเอาเมมโมรี่ การ์ดออกเก็บใส่กระเป๋าไป และได้ค้นหาทรัพย์สินภายในบ้าน พบตู้เซฟขนาดเล็กราคาประมาณ 500 บาท ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า เขย่าดูคาดว่าจะมีทรัพย์สินมีค่าอยู่ข้างใน จึงได้อุ้มเอาขึ้นรถขับหนีกลับบ้านโดยไม่ได้ค้นหาทรัพย์สินอย่างอื่น ระหว่างทางได้ทุบตู้เซฟเอาทรัพย์ ซึ่งมีเงินสด 120,000 บาท ทองรูปพรรณหนัก 7 บาท นาฬิกา 2 เรือน รวมมูลค่าเป็นเงินกว่า 4 แสนบาท นำเงินสด 120,000 บาท เก็บซ่อนไว้ที่บ้านพัก ส่วนทองรูปพรรณเป็นสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท นำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในห้างโลตัส สาขาบึงกาฬ ได้เงิน 5 หมื่นกว่าบาท จึงได้ขับรถหนีไปหาเพื่อนที่เคยทำงานกู้ภัยอยู่ จ.นครพนม ขณะที่กำลังจ้างช่างเปลี่ยนตู้ลำโพงและเครื่องเสียงตัวใหม่อยู่บ้านหนองญาติ ต.หนองญาติ ก็ถูกกำนัน ต.ปากคาด นำตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด เข้าจับกุมได้เสียก่อนนายนเรศ พลภักดี อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 186 หมู่ที่ 2 บ้านหนองมุม ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ
เจ้าของทรัพย์ที่โจรลักไปได้คืนเกือบหมด เปิดเผยว่า ขณะที่โจรเข้าบ้านสัญญาณเตือนเข้ามือถือตนไม่ได้ยินเนื่องจากนอนหลับ รุ่งเช้าได้เปิดโทรศัพท์ ดูจึงได้โทรบอกนายพงษ์ศักดิ์ พลภักดี กำนันคนดังตำบลปากคาด ผู้เป็นพ่อให้ไปดูบ้านด้วย จึงพบว่ามีโจรงัดเข้าบ้านไปขโมย จากนั้นได้ตรวจดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเข้าออกบ้าน พบทะเบียนรถที่คนร้ายขับขี่มา ตนเองได้ประกาศลงเฟสบุ๊ค ตามหาเผื่อมีเบาะแส จากนั้น มีพลเมืองดีแจ้งกลับมาบอกว่า เห็นรถคันต้องสงสัยจอดอยู่ที่ร้านเครื่องเสียงในบ้านหนองญาติ อ.เมืองนครพนม จึงตามไปดูและจับตัวได้ดังกล่าว จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคาด ที่ติดตามจับกุมและยึดทรัพย์สินกลับมาได้เกือบครบ