“รอง ผบช.ภ.1” ลงพื้นที่สั่งไล่ล่าคนร้ายโหด ประกบยิงดับคารถ ก่อนเผาอำพราง

คนร้ายขับรถประกบยิงเจาะกะโหลกอย่างเหี้ยมโหดหนุ่มวัย 45 ปี อาชีพปล่อยเงินกู้ และทำธุรกิจสีเทา ดับคารถแล้วเผาอำพรางคดีบนถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี ทางเจ้าหน้าที่คาดเป็นการแก้แค้น โกรธแค้น ขัดผลประโยชน์เรื่องธุรกิจมืด

จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 16 มกราคม 2566 ร.ต.อ.เอกวิทย์ ทองทุ่ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุจากศูนย์วิทยุว่ามีรถยนต์ไฟไหม้มีผู้ติดภายในรถเหตุเกิดบนถนนสายเลี่ยงเมืองลพบุรี ระหว่างหลัก กม.ที่ 6-7 หมู่ที่ 1ต.กกโก อ.เมืองลพบุรี หลังจากที่ได้รับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบประสานรกน้ำดับเพลิงจาก ทต.กกโก และ ทต.ป่าตาล จำนวน 2 คัน จากนั้นได้รีบรุดไปยังจุดที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมือง ลพบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุมาทำการดับเพลิงที่ลุกไหม้

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน กล-5518 ลพบุรี จอดชิดไหล่ถนน โดยพบว่าไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดน้ำจนเพลิงสงบรถได้รับความเสียหายทั้งคัน จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถจำนวน 1 คนในสภาพถูกไฟไหม้เกรียมไม่สามารถระบุเพศได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสถานทีเกิดเหตุได้มี นายเล็ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี อาชีพขับรถแม็คโคร และภรรยา ที่เดินทางมาจาก จ.สระบุรี ได้ขับรถผ่านมาจะมุ่งหน้าไป อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้เข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนและบอกว่าก่อนเกิดเหตุไหม้รถคันดังกล่าวตนได้ขับรถผ่านมาพอดีพบว่าได้มีรถยนต์เก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน โดยได้ขับมาจอดประกบหลังจากนั้นไฟก็ได้ไหม้ลุกพรึบทันที โดยรถเก๋งสีขาวได้ปิดไฟขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็วตนเองได้วนรถมาดูเห็นว่ามีคนติดอยู่ในรถ

หลักจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยละเอียดพบว่าบนถนนห่างจากรถประมาณ 20-30 เมตรพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 1 มม. จำนวน 1 ปลอกตกอยู่ ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่แค่อุบัติเหตุไฟไหม้รถ อาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง จึงได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวร รพ.อานันทมหิดลร่วมตรวจสอบเหตุในครั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของ นายสุวิทย์ เกิดแก้ว (หรือฉายาแตงไทยท่าวุ้ง) อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 11 ต.บางคู้ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธินำเครื่องตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตที่ไหม้เกรี้ยมออกมาจากรถ หลักจากได้ชันสูตรพบว่ามมีร่องรอยกระสุนปืนยิงที่ขมับขวา 1 นัดทะลุท้ายทอย
ทางด้าน น.ส.อังคนา อายุ 35 ปี แฟนสาวที่ได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ เมื่อเห็นรถถึงกับปล่อยโฮจนญาติต้องปลอบใจ ได้ยืนยันว่าผู้ที่ติดในรถคือนายสุวิทย์ หรือแตงไทยท่าวุ้ง เจ้าของรถ ซึ่งแฟนสาวนั้นได้คบหากันได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งทราบเพียงว่านายสุวิทย์แฟนหนุ่มใหญ่ มีอาชีพออกเงินกู้เท่านั้น โดยสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด และก็ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ตายเคยพัวพันคดียาเสพติด ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ และสอบปากคำแฟนสาวและญาติของผู้ตายในเบื้องต้นแล้วยังระบุชี้ชัด แต่จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายเคยต้องโทษคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก่อนจะผันตัวเองมาออกเงินกู้เก็บดอกรายวัน หรือยังทำธุรกิจสีเทาอยู่ ขัดแย้งกับผู้ที่ลงมือสังหารจนถูกฆาตกรรมอำพรางดังกล่าว

ล่าสุดตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเป็นเส้นทางก่อสร้างไม่มีกล้องวงจรปิด ตรงจุดดังกล่าว ซึ่งคนร้ายน่าจะมีการเตรียมการณ์ ดูลาดเลาจุดสังหารไว้ก่อนหน้าแล้ว ก่อนเตรียมมือปืนมายิงและน้ำมันเชื้อเพลิงมาเผาเพื่ออำพรางคดี โยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ได้สันนิฐานว่าคนร้ายมากกว่า 1 คน ที่ลงมือก่อเหตุรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี ประกบยิงก่อนบังคับจอดก่อนคุยกัน แล้วไม่สามารถตกลงกันได้ ยิงเผาขนเจาะกะโหลกผู้ตาย หลังจากนั้นได้เผารถเบี่ยงเบนประเด็นการสังหารเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งมีนายเล็กผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบรถยนต์คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้วได้ปิดไฟขับหลบหนีไปจนทราบว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรร่องรอยบาดแผลที่กะโหลกศีรษะอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อมกับจะได้เร่งสืบหาติดตามตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. พลตำรวจตรีพีระพงษ์ วงศ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยตำรวจงานสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีฆ่าแล้วเผา เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ ผู้ลงมือก่อเหตุมีความเหี้ยมโหด และได้สอบถามความคืบหน้าล่าสุดกับพันตำรวจเอกรักศักดิ์ เมฆจินดา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองลพบุรี ถึงเหตุการณ์และความคืบหน้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้ตั้งประเด็นสังหารโหด ไว้ 3 ประเด็น 1.ประเด็นเกี่ยวกับยาเสพติดที่ผู้ตายมีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติดรายสำคัญของลพบุรี และเพิ่งพ้นโทษอกมาจากเรือนจำได้ไม่นาน 2.ประเด็นการออกเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ที่นายสุวิทย์ หรือแตงไทยท่าวุ้ง มักมีความก้าวร้าวกับผู้ที่ติดค้าง และ3. ประเด็นเรื่องชู้สาว

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข่าวเชิงลึกพบว่าประเด็นการถูกสังหารโหดในครั้งนี้เนื่องมาจาก นายสุวิทย์ ยังมีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีการหักหลังกันตั้งแต่ก่อนอยู่ในเรือนจำ ซึ่งขณะนี้ทาง รอง ผบช.ภ.1 ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนประชุมด่วน โดยได้กำชับในการไล่ล่าติดตามตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยผลการพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังมาไม่ถึงพนักงานสอบสวน รวมถึงหลักฐานสำคัญเช่นกล้องวงจรปิด รูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้มีเพียงปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.เพียงชิ้นเดียวที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบ