เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.บก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภาค 5, พ.ต.อ.อภิชาติ รักพงษ์ ผกก.ตชด.33 และ พ.อ.อดุลย์ ลอยฟ้า เสธ.ศอ.ปส.ชน. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี ตรวจยึดยาบ้ารวม 2.2 ล้านเม็ด จับกุมผู้กระทำความผิด 1 คน ตรวจยึดรถกระบะจำนวน 1 คัน
คดีแรก เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 1.99 ล้านเม็ด และรถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยกรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ทา จ.ลำพูน จับกุมยาบ้าจำนวน 20,200 เม็ด ผู้ต้องหา 1 คน จากนั้นได้ขยายผลทำการจับกุมเครือข่ายได้ผู้ต้องหาอีกจำนวน 5 คน ยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ด ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามี นายอะเลโพะ (สงวนนามสกุล) ชาวอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ มีความเชื่อมโยงเป็นผู้ใช้บัญชีม้า ในการรับโอนจากกลุ่มที่ถูกจับกุมข้างต้น จึงได้ตั้งเป็นเป้าหมายในการสืบสวนติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอะเลโพะฯ จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากอำเภอเวียงแหง จึงได้วางกำลังตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง ต่อมาเวลา 19.30 น. พบว่ามีรถยนต์ตามเป้าหมายจำนวน 2 คัน ขับตามกันมา จึงได้ทำการสกัดจับที่บริเวณถนนหน้า สภ.แม่แฝก จว.เชียงใหม่ แต่ปรากฏว่ารถทั้งสองคันได้ฝ่าจุดสกัดและหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่ติดตาม โดยรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า คันที่นายอะเลโพะฯ เป็นผู้ขับขี่ พร้อมกับพวกรวม 3 คน ได้เสียหลักตกข้างทาง โดยนายอะเลโพะฯ กับพวกได้ วิ่งหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะพบยาบ้า ของกลางรวม 11 กระสอบ ประมาณ 1.99 ล้านเม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดและนำส่ง พงส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในขณะนี้ พงส. ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายอะเลโพะฯ ไว้แล้ว
คดีต่อมา เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราม ยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 1 คน ยาบ้าจำนวน 222,000 เม็ด โดยจับกุมได้ในท้องที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหาจำนวน 2,000 เม็ด โดยผู้ต้องหาได้นำยาบ้ามาแลกกับอาวุธปืน และนัดส่งมอบยาบ้ากันบริเวณท้องที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด และทำการขยายผลสามารถตรวจยึดยาบ้าได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 220,000 เม็ด จากเครือข่ายของผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวนคดีนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับเครือข่ายที่หลบหนี จำนวน 2 คน
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าในกรณีที่มีการจับกุม ตรวจยึดยาเสพติดทุกกรณี ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนร่วมกับพิสูจน์หลักฐานดำเนินการเก็บพยานหลักฐานที่ยาเสพติด เช่น รอยลายนิ้วมือแฝง, DNA เป็นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนขยายผล และเป็นที่น่าสังเกตว่าปัจจุบันรูปแบบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในมีลักษณะเปลี่ยนไป กลุ่มขบวนการได้หันกลับมาใช้วิธีการกองทัพมด ลดปริมาณยาเสพติดในการขนแต่ละครั้ง เพื่อหลบหลีกการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ขอยืนยันว่า ไม่ว่ากลุ่มขบวนการจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร ตำรวจภูธรภาค 5 ก็มีความพร้อมในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนทุกท่าน เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านทาง สายด่วน 191 หรือ ช่องทาง LINE@INTHANON1 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.65 – 10 ม.ค.66 มีดังนี้ จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 8,337 คดี เป็นคดีรายสำคัญ 41 คดี ผู้ต้องหา 7,724 คน ยาบ้า 22.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 864 กก. เคตามีน 401 กก. ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 275 ล้านบาท