“รองโจ๊ก” ผนึกกำลัง “ตำรวจภูธรภาค 8” เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 517 จุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 517 จุด กวาดล้าง ตรวจค้นผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน ยาเสพติด วัตถุระเบิด ค้าประเวณี โจรกรรมรถ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 เตรียมพร้อมเปิดประเทศรอรับนักท่องเที่ยว 2 ชายฝั่ง อันดามันและอ่าวไทย

 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมีจำนวนลดน้อยลงมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยในภาพรวม แต่ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลกที่หลายประเทศได้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคและเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนกิจกรรมเทศกาลปีใหม่ 2566 ซึ่งตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ล้วนเป็นพื้นที่ที่ชาวต่างชาติและชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา เป็นต้น

ในการนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้กำหนดและวางมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ในปีงบประมาณ 2566 โดยได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ให้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ลดอาชญากรรมในพื้นที่ สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์  ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน จึงได้มีการวางแผนในการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน ยาเสพติด วัตถุระเบิด ค้าประเวณี โจรกรรมรถ โดยให้ทุกหน่วยในสังกัด ภ.8 รวบรวมพยานหลักฐานในการขออนุมัติหมายค้นต่อศาลเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายทั้งห้องเช่า เกสเฮ้าส์ บ้านพัก รีสอร์ท แหล่งมั่วสุมอาชญากรรมทุกรูปแบบที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 19 – 23 ธ.ค.65 กว่า 517 เป้าหมายใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย

– ภ.จว.สุราษฎร์ธานี จำนวน 112 เป้าหมาย

– ภ.จว.นครศรีธรรมราช จำนวน 88  เป้าหมาย

– ภ.จว.ชุมพร จำนวน 79  เป้าหมาย

– ภ.จว.กระบี่ จำนวน 75  เป้าหมาย

– ภ.จว.ภูเก็ต จำนวน 66 เป้าหมาย

– ภ.จว.พังงา จำนวน 54 เป้าหมาย

– ภ.จว.ระนอง จำนวน 43 เป้าหมาย

ผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจเก็บ DNA บุคคลเป้าหมาย 415 ราย, จับกุมอาวุธปืน 88 กระบอก กระสุนปืน 1,199 นัด, ยาเสพติด 377 ราย (ยาบ้า 430,029 เม็ด และยาไอซ์ 305 กรัม),  จับตามหมายจับ 71 ราย รวมผู้ต้องหาทั้งหมด จำนวน 619 ราย โดยมีการจับกุมอาวุธปืนมากสุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 32 กระบอก ตามมาด้วยจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 19 กระบอก และจังหวัดชุมพร จำนวน 14 กระบอก

การปิดล้อมตรวจค้น 517 เป้าหมายใน ภ.8 ในครั้งนี้เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ให้ไว้ในที่ประชุมบริหาร ตร. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565  โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา ให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว  รองรับการเปิดประเทศและเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและประชาชนชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ที่ผ่านมามีการระดมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ภ.8 อย่างต่อเนื่องและจริงจังมาโดยตลอด ทำให้พื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้ของประเทศไทยปลอดภัยจากอาชญากรรมต่างๆ มากขึ้น พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ให้ประชาชนอยู่กับอย่างสงบสุข

ขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8, ผบก.สส.ภ.8, ผบก.ภ.จว.ฯ ทุก ภ.จว., หน.สภ.ฯ ในสังกัด ภ.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติทุกนาย ที่ร่วมกันปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ จนมีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบาย ตร. และขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมตรวจผลการปฏิบัติ