กองปราบฯรวบเท้าแชร์แสบ โกงลูกแชร์ความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.แดนรบ สมัยชูเกียรติ สว.กก.6 บก.ป.,ร.ต.อ.ยุทธนา จิตจำนอง รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ฐิติมา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 453/2565 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2565 , ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 454/2565 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2565 และตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 455/2565 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ในฐานความผิดฐาน “เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง”

สถานที่จับกุม บริเวณวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา วันที่ 4 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 19.20 น. สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้เปิดให้กลุ่มผู้เสียหายเข้าร่วมเล่นแชร์กับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้เปิดวงแชร์จำนวนหลายวงมานานกว่า 3 ปี ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมเล่นแชร์กับผู้ต้องหามากกว่า 50 ราย ซึ่งในช่วงแรกผู้ต้องหาสามารถจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้ได้ ต่อมาเริ่มมีผู้เสียหายหลายรายไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้และไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้ โดยพบว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามจนกระทั่งได้เบาะแสว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพค้าขายอยู่ภายในงานประจำปีของวัดในพื้นที่ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ พบตัวผู้ต้องหากำลังขายของอยู่ภายในวัดดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและทำการจับกุมผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับว่าได้ตั้งตัวเป็นเท้าแชร์ เปิดให้มีสมาชิกเข้าร่วมเล่นแชร์กับตน โดยจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนสมาชิกวงแชร์มากกว่าสามสิบคน มีจำนวนวงแชร์หลายวงแชร์ ซึ่งผู้ต้องหาไม่สามารถจำได้ว่ามีกี่วง หลังจากเปิดให้สมาชิกเล่นได้ระยะหนึ่งแชร์ก็ล้ม ผู้ต้องหาจึงได้หลบหนีไปประกอบอาชีพค้าขายตามงานต่างๆ จนกระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมเข้าจับกุมดังกล่าวแต่ทางผู้ต้องหาให้การในชั้นจับกุมว่าไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีลูกแชร์ เพียงแต่มาขายของเพื่อนำเงินที่ได้ไปชดใช้ให้แก่ลูกแชร์ที่ยังไม่ได้รับเงินจากการเล่นแชร์จากตนเท่านั้น