วันนี้เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดพร้อมยาบ้าจำนวนมาก พร้อมด้วย พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส. และ พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผบก.ขส.บช.ปส. ซึ่งจากนโยบายเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ในการปราบปรามยาเสพติด เดินหน้าเชิงรุกทุกมิติการทำงานเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชนทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดให้ครอบคลุม รวมทั้งขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดให้สิ้นซาก จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดสกัดกั้นจับกุมและสืบสวนขยายผลการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บช.ปส. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจข่าวกรองยาเสพติด บช.ปส. สนธิกำลังจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ นายอลงกรณ์ อายุ 28 ปี และ นายทวีศักดิ์ อายุ 47 ปี ได้ริมถนนภายในหมู่บ้านหนองแรต ม. 8 ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จว.นครสวรรค์ และ บริเวณทางเข้า บ้านเลขที่ 11/2 ม.9 ต.ท่าข้าม อ.ค่ายบางระจัน จว.สิงห์บุรี หลังเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันรับจ้าง ขนส่ง/ลำเลียงยาเสพติดให้โทษ ให้กับกลุ่มนายทุนผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อส่งลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง และปริมณฑล สอบสวนผู้ต้องหารับว่าเดินทางไปรับยาเสพติดที่ อ.เด่นชัย จว.แพร่ เพื่อไปส่งในพื้นที่ จว. สิงห์บุรี โดยผู้ว่าจ้างได้จ่ายเงินค่าจ้างบางส่วนมาแล้ว กระทั่ง สามารถจับกุม นายอลงกรณ์ ได้พร้อมยาบ้า ที่ถูกซุกอยู่ภายในรถยนต์จำนวน 4,600,000 เม็ด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจนสามารถจับกุม นายทวีศักดิ์ ฯ ได้เพิ่มตรวจค้นในตัวพบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงจำนวน 179 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 4,600,179 เม็ด
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือ ความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ” และ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” นอกจากนี้ ยังทำการตรวจยึดรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี ซึ่งใช้เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด 1 คัน, รถยนต์ นิสสัน มาร์ส 1 คัน และโทรศัพท์ มือถืออีก 2 เครื่อง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะขยายผลติดตามออกหมายจับบุคคลที่หลบหนี รวมไปถึงบุคคลในเครือข่ายทุกคนมาดำเนินคดี รวมถึงนำประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 เป็นมือที่สำคัญในการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายยาเสพติดทั้งหมด