พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งเตรียมปิดศูนย์ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลส่วนหน้าบางสะพาน หลังเจ้าหน้าที่ระบุ ร่างที่จะพบจากนี้ไปอาจกระจัดกระจาย และตรวจลายนิ้วมือไม่ได้ เสนอให้ส่งเข้านิติเวช ส่วนดีเอ็นเอ ของญาติ ที่จะใช้เทียบเคียง ให้ไปส่งพิมพ์ที่ พฐ จังหวัดที่อยู่ได้
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 ประมาณ 23.30 น. เรือหลวงสุโขทัยได้อัปปาง ในทะเลอ่าวไทย บริเวณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะเกิดเหตุ มีลูกเรือโดยสารอยู่ภายในเรือ จำนวน 105 นาย โดยสามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้แล้ว จำนวน 76 ราย เสียชีวิต 6 ราย และสูญหาย อีก 23 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างการค้นหา ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (22 ธ.ค. 65)เวลาประมาณ 18.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าและลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พ.ต.อ.กิตติภาพ ชุมพูนุช รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.บางสะพาน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้บรรยายสรุป ซึ่งในส่วนของตำรวจนั้น ได้นำพนักงานสอบสวนพร้อมตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาอำนวยความสะดวกให้กับญาติของผู้สูญหายที่มาเฝ้ารอการค้นหา รวมทั้งสนับสนุนการชันสูตรพลิกศพกรณีพบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบูรณาการร่วมกับ ร.พ.บางสะพาน ,ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน ,กลุ่มงานศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ,ศพฐ.ตร.และอาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิต่างๆ ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีผลการปฏิบัติในการค้นหาติดตามบุคคลที่สูญหาย ดังต่อไปนี้
กำลังพลทั้งสิ้น 105 นาย พบแล้ว 82 นาย สูญหาย 23 ราย ประกอบด้วย
– รอดชีวิต 76 นาย ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางสะพาน
– เสียชีวิต 6 นาย สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ได้ทั้ง 6 ราย (เก็บ DNA ,ฟันและพิมพ์ลายนิ้วมือ)
– อยู่ระหว่างการค้นหา 23 นาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฯ ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ที่ร่วมกันบูรณาการในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ญาติได้รับศพกลับไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด และขอแสดงความเสียใจกับญาติๆ ที่ต้องสูญเสียคนที่รัก จากเหตุการณ์นี้ โดยล่าสุดตำรวจสามารถยืนยันศพผู้เสียชีวิตที่พบ ไปได้ 6 ศพ และส่งกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่สัตหีบ ได้ครบตามจำนวนแล้ว ทั้งนี้ยังเหลือยอดที่ต้องรอพิสูจน์อีก 23 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการพบเพิ่ม ซึ่งจากการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าร่างที่ยังสูญหาย หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ก็อาจจะกระจัดกระจายไปหลายพื้นที่ ดังนั้นที่ประชุมจึงเสนอให้ปิดศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลส่วนหน้าที่บางสะพาน ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้
โดยหากมีการพบศพเพิ่มเติมหลังจากนี้ไป ให้ส่งไปพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ที่ นิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีการตรวจดีเอ็นเอแทน การตรวจลายนิ้วมือ เนื่องจากเชื่อว่า ร่างที่พบจากนี้ไปอาจจะเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะส่วนของผิวหนัง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและแดดแรง อาจจะทำให้แบคทีเรียย่อยสลายได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้เบื้องต้นได้ประสานไปยังญาติของผู้สูญหาย ให้ทยอยมาเก็บดีเอ็นเอไว้เพื่อใช้เทียบเคียง โดยขณะที่มีพ่อแม่ และญาติ มาเก็บดีเอ็นเอแล้ว 14 คนแล้ว ยังเหลืออีก 9 คน ซึ่งส่วนที่เหลือสามารถไปตรวจเก็บดีเอ็นเอ ได้ตามภูมิลำเนา ที่มี พฐ ตั้งอยู่ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กำชับให้หน่วยพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล จะต้องยึดหลักทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น คือการพิสูจน์ทราบจากลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอหรือฟัน จะไม่ใช้การดูจากภายนอกจากเครื่องแต่งกายหรือเสื้อผ้า ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดในการส่งมอบศพไปได้
โดยยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะร่วมสนับสนุนการตรวจพิสูจน์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคล ในการส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับญาติพี่น้องไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจการค้นหาผู้สูญหายแน่นอน