เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 ธ.ค.ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(หมอชิต จตุจักร) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น.และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดกิจกรรมปล่อยแถวเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2566
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยในห้วงวันหยุดยาวปีใหม่ 2566 รวม 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 65 – 2 ม.ค. 66 เป็นเทศกาลที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งอาจเกิดปัญหาด้านอาชญากรรม ความสงบเรียบร้อยและการจราจร การปล่อยแถวเป็นการแสดงความพร้อมความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมทั้งจะระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตั้งแต่วันที่ 20-29 ธ.ค. 65 เน้นการป้องกันดูแลทรัพย์สิน ความปลอดภัย วิเคราะห์วางแผนกำหนดพื้นที่ในการป้องกันเหตุ ให้ประชาชนมั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินตลอดจนการได้รับการบริการด้านการอำนวยความสะดวกการจราจรจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่
ด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาล ปีใหม่นี้ได้รับนโยบายจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ให้ดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ส่วน บขส. ได้มีการสำรองรถไว้จำนวน 85 คัน และยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งในเรื่องของความปลอดภัยและป้องกันโควิด 19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งมีการคำนวณประชาชนที่จะเดินทางกลับมากสุดในวันที่ 29 ถึง 30 ธันวาคมนี้คาดว่ามีจำนวนประมาณ 50,000 คน เป็นส่วนของการเดินทางออกส่วนการเดินทางเข้าคาดว่ามีจำนวนประมาณ 40,000 คน และในส่วนขากลับ ในวันที่ 2 หรือ 3 มกราคม 2566 นี้ จำนวนประมาณ 5-6 หมื่นคน
นายสรพงศ์ เผยต่อว่า สำหรับวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีการร่วมมือกันในเรื่องของความปลอดภัยและในวันที่ 22 ธันวาคมนี้จะมีการประชุมหารือร่วมกับ หน่วยงานต่างๆอาทิ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจรและสน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.สในเรื่องของยาเสพติด โดยในเรื่องของความปลอดภัยทางคนขับรถบขสต้องมีแอลกอฮอล์เป็น 0 และมีการตรวจหาสารเสพติดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม
นายสรพงศ์ เผยอีกว่า ส่วนของมาตรการลงโทษของ บขส. หากเป็นพนักงานของบขส.เองจะมีโทษทางวินัย และหากเป็นพนักงานของรถร่วมบริดารจะมีบทลงโทษยกเลิกสัญญา หากพบเรื่องยาเสพติดก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป