เมื่อวันที่ 30 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายลักพาตัวนายเหริน ไฮ่ ป๋อ สัญชาติจีน โดยมี น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ แฟนสาวสัญชาติไทยมาแจ้งความเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุชาวจีนได้ทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ภ.จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้วนั้น
ในระหว่างการสืบสวนคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำ น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ เพื่อเป็นพยานในคดีดังกล่าว ระหว่างการสอบสวนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของ น.ส.อริสราฯ เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายอย่าง อาทิเช่น ไม่สามารถระบุชื่อและใบหน้าของพ่อแม่ของตนได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว จึงได้นำเรียน่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบประวัติของ น.ส.อริสราฯ โดยละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบกับพ่อและแม่ของ น.ส.อริสราฯ ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำรูปของ น.ส.อริสราฯ ให้ทั้งสองดู ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้าบุคคลดังกล่าวมาก่อน โดยยืนยันว่า ทั้งคู่เคยมีบุตรสาวชื่อ น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ จริง แต่เสียชีวิตแล้วตั้งแต่อายุ 2 ขวบเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการแจ้งการเสียชีวิต เนื่องจากที่พักอยู่ในถิ่นกันดาร เดินทางลำบาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ น.ส.อริสราฯ ขอมีบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจสอบรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ออกบัตรให้ น.ส.อริสราฯ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 และรวบรวมพยานหลักฐานและซักถามปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย
1. นายเพิ่มเกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดอำเภอเชียงดาว (จับกุม)
2. นายอาเบ แซ่ลี่ กำนัน และผู้ดูแลมูลนิธิ (จับกุม)
3. นายอมรเทพ ปุกคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ (จับกุม)
4. นายวาเซ คล่องดารณี บิดาของ น.ส.อริสราฯ ตัวจริง (หลบหนี)
จากการสืบสวนทราบว่า นายเหรินไฮ่ป๋อ แฟนของ น.ส.อริสราฯ ได้ติดต่อกับนายอาเบฯ และนายอมรเทพฯ เพื่อให้ทำบัตรประชาชนให้ โดยได้มีการโอนค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงินกว่า 7 แสนบาทสำหรับค่าดำเนินการ โดยมีการแบ่งให้ผู้ร่วมขบวนการทั้ง 4 ราย มีนายอาเบและนายอมรเทพเป็นคนดำเนินการ โดยได้มีการพาตัวนายวาเซฯ ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.อริสราฯ ตัวจริง ให้มารับสมอ้างเป็นบิดา แต่เนื่องจากนายวาเซฯ ไม่เคยเห็นหน้าของผู้ว่าจ้างมาก่อน ทำให้ตอนที่เจ้าหน้าที่ไปซักถามจึงแจ้งว่าไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว และมีนายเพิ่มเกียรติฯ เป็นเจ้าหน้าที่ในการออกบัตรให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ในความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำตามหน้าที่ รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใด ได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นเท็จด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จฯ, ร่วมกับบุคคลที่มิได้มีสัญชาติไทย ยื่นคำขอมีบัตรด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ได้ดำเนินคดีกับ น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ หรือ น.ส.หย่ง ในความผิดฐาน เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทำ ใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ, แจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตรประจำตัวประชาชน, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, และเป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทำหรือใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ
อีกกรณีหนึ่ง เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขยายผลจับกุมกรณีแก๊งชาวจีนไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอบจีนชื่อ ตาต้าไลฟ์ หลังจากที่เมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ TICAC ได้มีการเข้าตรวจค้นรีสอร์ท 2 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจพบแก๊งคนจีนเช่าสถานที่ดังกล่าวในการไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพจีน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 14 คน รวมทั้งบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวอีก 30 คน และต่อมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 ได้ทำการขยายผลจากกรณีดังกล่าว จนสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อีกจำนวน 5 ราย และตัวนักแสดงอีก 19 ราย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม.3 ได้ทำการตรวจสอบแอพที่ใช้ในการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์พบว่า ยังมีการถ่ายทอดสดอยู่ จึงได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่า มีการใช้สถานที่ในการถ่ายทำดังกล่าวที่บริเวณคอนโดอาคาเดีย บีช คอนติเนนทอล หมู่ 10 ซ.ทัพพระยา 9 ถ.ทัพพระยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม.3 ร่วมกับ สภ.เมืองพัทยา จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดพัทยา เข้าค้นภายในห้อง D801 คอนโดอาคาเดีย บีช คอนิเนนทอล พบกลุ่มผู้ต้องหากำลังถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์อยู่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย
1. นายอาหลง มาเยอะ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษาจีน และควบคุมการถ่ายทำ
2. นายธันวา เรืองชิต นักแสดง
3. นายพีรพล กำริสุ นักแสดง
4. นายนนท์ธนา แถมสุข นักแสดง
5. นายวรินทร์ลดา คำอ้วน นักแสดง
6. นายสิทธิศักดิ์ คชสงคราม นักแสดง
7. น.ส.จิราพัชร์ จันต๊ะนาเขต นักแสดง/จัดคิวนักแสดง/ดูแลสถานที่ถ่ายทำ
จากการสอบถามทราบว่า ได้มีบอสคนจีนสั่งการมาชื่อว่า มะปราง หรือน.ส.เสว ลี่ เหว่ย อายุ 33 ปี ซึ่งอยู่ที่ประเทศจีน โดยยังมีนักแสดงที่ทำการหมุนเวียนมาถ่ายทำที่สถานที่ดังกล่าวอีกจำนวน 19 คน และมีคนทำหน้าที่ในการนำเงินค่าจ้างมาให้ รวมทั้งดูต้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในส่วนของผู้จัดการถ่ายทำเพิ่มอีก
1. น.ส.เสว ลี่ เหว่ย หรือมะปราง เป็นบอส
2. นายสุพรรณ ทรัพย์แย้ม เป็นผู้ดูแลการไลฟ์สด
3. นายปิยะกร คำเสียง คนดูต้นทางและคนจ่ายเงินนักแสดง
4. นายสมพงษ์ แซ่หยัง ล่ามแปลภาษาจีนและควบคุมการถ่ายทำ
5. นายจี้ เจิ้ง แพน เป็นผู้รับเงินจาก น.ส.มะปราง มาจ่ายนักแสดง
รวมทั้งยังออกหมายจับนักแสดงเพิ่มอีก 19 คน
โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่อง หมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ร่วมกันประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น, และร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในคดีแรกที่มีการขยายผลจับกุมได้นั้น เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความใส่ใจในการทำงาน สามารถตั้งข้อสังเกตจากการซักถามปากคำ จนนำมาสู่การตรวจพบการกระทำความผิดของชาวจีนที่หาช่องทางในการสวมบัตรคนไทย เพื่อสามารถมาประกอบธุรกิจในประเทศไทยได้ โดยสามารถขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่เปิดช่องให้คนไม่ดีสามารถเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยได้ ซึ่งจากนี้จะได้สั่งการให้ขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีชาวต่างชาติใช้วิธีการสวมบัตรคนไทยอีกหรือไม่ หากตรวจพบก็จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาดจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐทุกราย นอกจากนี้ ในส่วนของการขยายผลกลุ่มแก๊งชาวจีนที่ใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ในการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพ หารายได้จากการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยครั้งนี้สามารถขยายผลจับกุมผู้ควบคุมการถ่ายทำและนักแสดงซึ่งเต็มใจมาร่วมกระทำความผิดดังกล่าวได้จำนวนมาก เป็นอีกคดีหนึ่งที่ชาวจีนบางส่วนที่ไม่ดีได้มาลงทุนทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นจะยังมีการขยายผลเพื่อติดตามจับกุมบุคคลเหล่านี้ที่เข้ามาทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย เพื่อนำมาดำเนินคดีและผลักดันออกจากประเทศไทยให้หมด รับเฉพาะคนดีเข้ามาช่วยเหลือพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป