คืบหน้าโกงสอบตำรวจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งตรวจสอบเหตุแชร์ข้อสอบนายสิบอำนวยการภูธรภาค 5 ในสังคมออนไลน์ ยังไม่ยืนว่าเป็นเหตุทุจริตสอบ แต่ยอมรับที่ภูธรภาค 9 มีผู้สมัครนำโพยคำตอบเข้าห้องสอบทุจริตจริง พร้อมตัดสิทธิ์ไปแล้ว 73 คน
พลตำรวจโทนิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการทุจริตสอบคัดเลือกนายสิบตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อเดือนมีนาคม 2565 และเจ้าหน้าที่ได้พบมีผู้เข้าสอบนำโพยคำตอบเข้าไปในห้องสอบ 1 คน จนทำให้มีการสืบสวนขยายผลจนพบมีผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 73 คน และขณะนี้ได้ตัดสิทธิ์การเข้าเป็นนายสิบตำรวจไปแล้ว ส่วนที่เหลือไม่พบความผิดก็ให้เข้ารับราชการตามปกติ
ส่วนจะมีตำรวจ และร้อยตำรวจเอกหญิง นายหนึ่งที่พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งบุคคลอื่นว่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ขณะนี้ได้รับรายงานมาจากภูธรภาค 9 แล้ว แต่ขอตรวจสอบในรายละเอียดก่อน และภายในสัปดาห์นี้จะชี้แจงรายละเอียดได้
ขณะเดียวกันตำรวจได้รับร้องเรียนการทุจริตสอบนายสิบตำรวจฝ่ายอำนวยการ ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีการเผยแพร่คำถาม และคำตอบของข้อสอบในครั้งนี้ ที่มีผู้เข้าสอบกว่า 2 แสนคน และขณะนี้สอบผ่านการคัดเลือกไปแล้ว 1,160 คน และอยู่ระหว่างการรอสอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกายที่จะรับเหลือ 725 คน
ส่วนกรณีที่พบว่ามีชื่อและนามสกุล ของผู้เข้าสอบซ้ำกัน 2 คน จากการตรวจสอบพบว่าเลขประจำตัวประชาชนของทั้งสองคนไม่ตรงกัน แต่ชื่อนามสกุลเดียวกัน จึงสามารถเข้าสอบได้ และยืนยันว่าหากเลขประจำตัวประชาชนตรงกัน จะไม่สามารถลงสมัครในเว็บไซต์ได้
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าเป็นการทุจริตสอบ เบื้องต้นคำถาม และคำตอบที่นำมาเผยแพร่ตรงกับข้อสอบจริง แต่คาดว่าเป็นการจำคำถามมาแล้วพิมพ์ใหม่ ซึ่งก็จะต้องนำไปตรวจสอบความชัดเจนทั้งหมดว่ามีการทุจริตหรือไม่ ส่วนแผนปทุษกรรมจะเหมือน หรือเชื่อมโยงกับการทุจริตสอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้
แต่ยืนยันว่ากระบวนการออกข้อสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความรัดกุมอย่างมาก ตั้งแต่การเรียกให้คณะกรรมการออกข้อสอบมาเก็บตัว โดยที่ไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสาร และให้ออกข้อสอบคนละอย่างน้อย 10 ข้อมและจะมีคณะกรรมการเลือกข้อสอบไปแบ่งออกเป็น 4 ชุด จากนั้นจะส่งเข้าโรงพิมพ์ และมีคณะกรรมการจัดส่งข้อสอบไปยังสนามสอบ และมีคณะกรรมการกลางดูแลการจัดส่งไปแต่ละสนามสอบอีก โดยจะต้องตรวจสอบการบรรจุข้อสอบก่อนเปิดใช้ทุกครั้ง ซึ่งขั้นตอนดังกล่าว ถือว่ามีคณะกรรมการหลายฝ่าย และหลายชุด ทำให้ยากต่อการทุจริต
ส่วนผู้เข้าสอบก็จะต้องแต่งกายชุดกีฬาเข้าสอบ และห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าห้องสอบ ส่วนที่มีการทุจริต ยอมรับว่าอาจจะมีช่องโหว่บางส่วนที่ทำให้มีการลักลอบนำกระดาษคำตอบเข้าไป เนื่องจากมีผู้เข้าสอบจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการก็จะนำไปพิจารณาแก้ไขในอนาคต รวมทั้งจะดำเนินการกับตำรวจที่เข้าไปร่วมทุจริตทั้งทางวินัย และอาญาด้วย