รวบเอเยนต์รายใหญ่ย่านอยุธยา ขยายผลพบซุกยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ด

สถานการณ์ยาเสพติดที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เร่งเดินหน้ากวาดล้างจับกุมและขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติด รวมทั้งการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน  และการทำลายเครือข่ายทุกมิติอย่างเร่งด่วน  ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ  สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, และ พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ ผกก.2 บก.ปส.3 สั่งการให้สืบสวนหาข่าวเครือข่ายหน้าใหม่ รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายเก่า เพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั่วประเทศนั้น

ล่าสุดช่วง 04.30 น. ของวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 และ 2 บก.ปส.3, ร่วมกันจับกุม นายวิทยา สุขเสถียร อายุ 24 ปี, น.ส.วรัญญา ปั้นทอง อายุ 21 ปี สองสามีภรรยาชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 51/358 ม.3 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายวิทยา มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด และมีโกดังจัดเก็บยาเสพติด ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงติดตาม กระทั่งสามารถจับกุม นายวิทยา และ น.ส.วรัญญา พร้อมของกลาง ยาบ้า 1 แสนเม็ด บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว ก่อนจะขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหาได้เช่าโกดังไว้เพื่อพักและเก็บยาเสพติด จึงนำกำลังพร้อมคุมตัวผู้ต้องหาเข้าไปยังโกดังบริเวณริมถนนหลังโรงงาน dhl ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบยาบ้าซุกซ่อนอีก 3,670,000 ล้านเม็ด จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุม นายธนัชพงศ์ สุธีอรุณโรจน์ อายุ 34 ปี ได้เพิ่มขณะที่เดินทางมารับยาเสพติดบริเวณหน้าบ้าน เบื้องต้นตรวจยึด ยาบ้าของกลางได้ 3,770,000 ล้านเม็ด, รถกระบะ หมายเลขทะเบียน กม 9819 พระนครศรีอยุธยา และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 8กฬ 7876 กรุงเทพมหานคร 

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” สำหรับยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น พนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส.,กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาบ้าของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณะสุข เพื่อการทำลายต่อไป