ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ กองบังคับการปราบปราม (ศปจร.บก.ป.) ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่มีความเดือดร้อนด้านการเงิน จึงได้นำรถยนต์ ไปจำนำเพื่อกู้ยืมเงินผ่านเพจเฟซบุ๊ก จำนวน 3 เพจ ชื่อ “จำนำรถยนต์ 88888888” และ “รับจำนำรถชลบุรี รับจำนำรถชลบุรี กทม. ภาคตะวันออก” และ “adsellcar” ที่กลุ่มคนร้ายเปิดขึ้น โดยประกาศรับจำนำผ่านเพจฯ และนำออกขายต่ออีกทอดหนึ่ง แต่เมื่อเจ้าของรถนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาไถ่ถอนรถยนต์คืน กลุ่มคนร้ายกลับไม่นำรถมาคืนให้ ทราบภายหลังว่าถูกนำไปจำหน่ายต่อจึงเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยมีรถยนต์ที่ถูกประทุษร้ายไปกว่า 140 คัน
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. และชุด ศปจร.บก.ป. ทำการสืบสวนหาตัวผู้ร่วมขบวนการ รวมถึงจุดซุกซ่อนรถที่ถูกประทุษร้าย เพื่อนำรถส่งคืนให้แก่ผู้เสียหาย และทลายขบวนการหลอกรับจำนำรถที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้หมดไป โดย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ได้วางแนวทางการสืบสวนโดยเริ่มแกะรอยจากพยานหลักฐานที่กลุ่มคนร้ายพยายามอำพรางเจ้าหน้าที่ จนสามารถสืบทราบถึงขบวนการกลุ่มผู้กระทำความผิด รวมถึงจุดซุกซ่อนรถยนต์ที่ถูกประทุษร้าย จากนั้นจึงได้วางแผนเพื่อเข้าทำการตรวจค้น เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.2ฯ, พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ฝอ.บก.ปปป.ปรก.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ HONDA รุ่น CIVIC สีน้ำเงิน คันหมายเลขทะเบียน 9กฮ 1975 กทม. ซึ่งเป็นรถที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบรถคันดังกล่าว แต่ผู้ครอบครองรถในขณะนั้นไม่สามารถชี้แจงถึงที่มาของรถได้ พร้อมกับรับว่าเป็นรถหลุดจำนำ ซึ่งจะนำไปขายให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลโดยทันทีจากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นตามจุดต่างๆ จำนวน 7 จุด ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ผลการตรวจค้นทำการตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 64 คัน โดยตรวจยึดจาก นายชูชัย หรือเป้ฯ และ นายราชวัชร์ หรือบอยฯ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถของกลางในคดี 22 คัน จาก 9 สถานีตำรวจทั่วประเทศ ได้แก่ สภ.เสม็ด 14 คัน, สภ.หนองขาม 1 คัน, สภ.เมืองชลบุรี 1 คัน, สภ.แสนภูดาษ 1 คัน, สภ.ฉะเชิงเทรา 1 คัน, สภ.บ่อวิน 1 คัน, สภ.บางปะกง 1 คัน, สภ.บ้านฉาง 1 คัน, สภ.ปลวกแดง 1 คัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
จุดตรวจค้นที่ 1 โกดัง A3 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จำนวน 12 คัน เป็นรถของกลางในคดี 6 คัน(สภ.เสม็ด 4 คัน, สภ.เมืองฉะเชิงเทรา 1 คัน, สภ.เมืองชลบุรี 1 คัน)
จุดตรวจค้นที่ 2 บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จำนวน 10 คัน เป็นรถของกลางในคดี 3 คัน (สภ.บ่อวิน 1 คัน, สภ.เสม็ด 1 คัน, สภ.บางปะกง 1 คัน)
จุดตรวจค้นที่ 3 โกดังไม่ทราบเลขที่ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จำนวน 23 คัน เป็นรถของกลางในคดี 7 คัน (สภ.เสม็ด 5 คัน , สภ.ปลวกแดง 1 คัน, สภ.หนองขาม 1 คัน)
จุดตรวจค้นที่ 4 ลานจอดรถในพื้นที่ ม.2 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จำนวน 9 คัน เป็นรถของกลางในคดี 3 คัน (สภ.เสม็ด 3 คัน)
จุดตรวจค้นที่ 5 ลานจอดรถในซอยวิจิตรณุกูล ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จำนวน 3 คัน
จุดตรวจค้นที่ 6 ลานจอดรถข้างหอพักทวีวัฒนา ซอยโชคมงคล ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรีจำนวน 1 คัน
จุดตรวจค้นที่ 7 โกดัง A6 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จำนวน 6 คัน เป็นรถของกลางในคดี 3 คัน(สภ.บ้านฉาง 1 คัน, สภ.เสม็ด 1 คัน, สภ.แสนภูดาษ 1 คัน)
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ทั้งสิ้น 64 คัน นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป