ผบ.ตร. ประชุมเร่งรัดทีมคลี่คลายคดีระเบิดคาร์บอมถล่มแฟลตตำรวจนราธิวาส

ผบ.ตร. ประชุมเร่งรัดทีมคลี่คลายคดีระเบิดคาร์บอมถล่มแฟลตตำรวจนราธิวาส เตรียมเสนอปูนบำเหน็จเลื่อนยศ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ เป็นพลตำรวจเอก สั่งดูแลช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้บาดเจ็บ จัดหาที่พักชั่วคราวให้

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 เวลาประมาณ 18.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 รรท. ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ ระเบิดคาร์บอม ภายในบริเวณแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ รอง สวป.สภ.เมืองนราธิวาส ขณะกำลังจะออกไปปฏิบัติหน้าที่ และบาดเจ็บอีกจำนวน 43 ราย แฟลตอาคารที่พัก รถยนต์ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ก่อนเดินทางไปยังห้องประชุม สภ.เมืองนราธิวาส เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งรัดคลี่คลายคดี ใช้เวลากว่า 1 ชม.

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บทุกราย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เกิดเหตุพบว่า เกิดความเสียหายค่อนข้างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 43 ราย ในทางคดี จากการประชุมติดตามเร่งรัด ผบช.ภ.9 ได้รายงานให้ทราบว่า มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร ทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิด

เบื้องต้นพบว่า ผู้ก่อเหตุแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับรถเข้ามาจอดทิ้งไว้และหลบหนีไป รายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติมยังไม่สามารถบอกได้ อยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน แต่ยืนยันว่าจะเร่งทำการสืบสวนคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ได้สั่งการให้ ภ.9 และ ภ.จว.นราธิวาส เร่งแก้ปัญหาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เดือดร้อน จัดหาที่อยู่ให้ชั่วคราว และเร่งซ่อมแซมแฟลตที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งวางมาตรการความปลอดภัยให้เข้มข้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก

กรณีของ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ฯ ผู้เสียชีวิต ดำรงตำแหน่ง รอง สวป.สภ.เมืองนราธิวาส (ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลงานด้านการจราจรและงานความมั่นคง)  ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 7 ขั้น, ขอพระราชทานยศเป็น พล.ต.อ.และเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงขึ้นไม่เกิน 2 ชั้นตรา รวมทั้งให้การช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นเป็นกรณีพิเศษ อาทิ  เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ตร., เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าเงินเดือนสุดท้าย , เงินบำเหน็จตกทอด, เงินช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาฯ, เงินกองทุนสวัสดิการ ตร., เงินช่วยเหลือจากสมาคมแม่บ้านตำรวจ, เงินบำนาญพิเศษรายเดือนสำหรับทายาท, เงินช่วยเหลือทุนการศึกษารายปี/ เงินยังชีพรายเดือนสำหรับบุตร, เงินเยียวยาจาก กยต.(ศอ.บต.), เงินทดแทนประกันชีวิต, เงินสวัสดิการสงเคราะห์จาก ภ.9,  เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสายใจไทยฯ, เงินค่าจัดการศพจากองค์การทหารผ่านศึก, การบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของเงินช่วยเหลือต่างๆ นั้นในเบื้องต้นรวมแล้วเป็นเงินประมาณ 3,774,760 บาท

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว สั่งการให้ดูแลสวัสดิการ ขวัญกำลังใจตำรวจในพื้นที่ พร้อมเร่งรัดสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว”