จากกรณีสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 เวลาประมาณ 14.00น. ได้มีคนร้ายได้ใช้ของมีคมปอกเปลือกของลำต้นทุเรียนหมอนทอง จำนวน 9 ต้น และราดน้ำกรดฆ่ายางบริเวณดินใต้ต้นทุเรียน ทำให้ได้รับความเสียหาย รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาทต่อต้น ซึ่งปลูกไว้บนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ม.8 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จว.พัทลุง และมีการเขียนข้อความด้วยปากกาลงในกระดาษลักษณะข่มขู่ บรรจุในถุงพลาสติกใสผูกติดไว้ที่ต้นทุเรียน ข้อความว่า “พวกเราจะขอความช่วยเหลือ ถ้าหากไม่ด้ายตัวอย่างมีให้เห็น ไว้แล้วที่ต้นทุเรียน ถ้าไม่อยาก ให้ต้นทุเรียนตายหมดทั้งสวน ให้คุณไปติดต่อที่ลูกพี่กูด้ายเลย กูให้เวลาพวกมึงไม่เกิน 7 วัน เน้นไม่เกิน 7 วัน” นั้น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ควบคุมดูแลการสืบสวนติดตามและจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว และ ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการขู่กรรโชกทรัพย์จากประชาชน จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วัลลพ จำนงค์อาษา รอง ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9, พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนเร่งรัดติดตามกลุ่มคนร้ายทันที
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 พ.ย.65 พ.ต.อ.ภาคิณ ณ ระนอง รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าพะยอม ได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย คือ
1. นายเจิม หรือไข่หมูก เส้งเอียด อายุ 72 ปี ที่อยู่ 98 ม.5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จว.พัทลุง
โดยกล่าวหาว่า พยายามกรรโชกทรัพย์, ทำให้เสียทรัพย์ซึ่งเป็นพืชหรือพืชผลของกสิกร, บุกรุก
จากการซักถามเบื้องต้น นายเจิมฯ หรือไข่หมูก ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือ ใช้ให้ นายเอ (นามสมมุติ) เป็นผู้เขียนข้อความข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองเจ้าของสวนทุเรียนแต่อย่างใด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นคดีที่น่าสนใจของสื่อมวลชนและประชาชน อีกทั้ง ผู้ก่อเหตุมีการเขียนข้อความข่มขู่ว่าจะทำอันตรายต่อทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นจึงได้มีการเร่งรัดสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยเร่งด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม ผู้ก่อเหตุได้จำนวน 1 ราย ซึ่งจากนี้จะสั่งการให้สืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่รู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข