เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 พ.ย.ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ร่วมกับ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 ,พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.1 บก.สอท.2 พร้อมตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าไทย-มาเลเซียรายใหญ่ ยึดของกลางมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท พร้อมจับกุมนายสันติ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหา ได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์หนองแค จังหวัดสระบุรี
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจ บช.สอท.ได้รับการประสานจาก สคบ.ว่าพบการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มาขายผ่านเว็บไซต์,อินสตราแกรม @ thisissalts_official และเพจเฟซบุ๊ก thisissaltsofficial ซึ่งส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์จากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มาที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ตำรวจจึงสืบสวนจับกุมนายสันติ ขณะกำลังขนสินค้ามาส่ง จากการตรวจสอบพบน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 64,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 13,500,000 บาท
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายสันติ รับว่าได้รับจ้างจาก น.ส.มิกซ์ ให้มารับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ไปส่งยังอาคารพาณิชย์ใน จ.สระบุรี ตำรวจจึงขอหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์เลขที่ 89/37 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บ พบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า รวม 160,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 37,000,000 บาท
จากการสืบสวนขยายผลยังพบว่า ร้านออนไลน์ดังกล่าวยังมีพัสดุส่งไปยัง จ.หนองคาย แต่ยังรอการนำจ่ายที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบก่อนพบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 29,000 ชิ้น อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า 4,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 7,500,000 บาท ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา สามารถยึดของกลางเพิ่มเติมได้อีกที่ไปรษณีย์หลักสี่ มูลค่าอีก 20 ล้านบาท รวมมูลค่าของกลางทั้งหมด 80 ล้านบาท เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหานายสันติ ฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งห้ามขายบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าฯ” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ยึดของกลางทั้งหมดไปทำลาย พร้อมสืบสวนขยายผลผู้กระทำผิด และประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ปิดเว็บไซต์ที่ลอบขายสินค้าผิดกฎหมายในช่องทางออนไลน์ต่างๆ ต่อไป