ผบช.ภ.7 แถลงผลระดมกวาดล้างห้วง 10 ตค. ถึง 8 พย.65 จับอาวุธปืน 1,077 กระบอก ยาบ้า 638,627 เม็ด เฮโรอีน 6,989 กรัม ยาไอซ์ 6,492 กรัม และสิ่งผิดกฏหมายอีกเพียบ
เมื่อที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.30 น. ที่จังหวัดนครปฐมผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, แถลงผลระดมกวาดล้างณ บริเวณหน้าอาคารตำรวจภูธรภาค 7 ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ด้วยปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านมาการก่ออาชญากรรมมีลักษณะที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยมีการใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เป็นจำนวนมาก ทั้งในคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายและเพศ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ มีการใช้อาวุธปืนในลักษณะอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จากการสืบสวนพบ มีการลักลอบซื้อขายอาวุธปืนหรือสิ่งของผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก ซื้อขายปืนเถื่อน เป็นต้น ซึ่งเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีประเภทหนึ่ง
ซึ่งมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงบัญชาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับให้บังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อยได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดม กวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม – 8 พฤศจิกายน 2565 (30 วัน) โดยกำหนดเป้าหมายเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 ควบคุมการปฏิบัติ และสั่งการให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในสังกัด 8 จังหวัด และ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 รวมทั้ง หัวหน้าสถานีตำรวจ ข้าราชการตำรวจทุกนาย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7,ได้กล่าวว่าบูรณาการร่วมกับทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่รับผิดชอบ ปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยกำหนดเป้าหมายเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน โดยผิดกฎหมาย (On Ground) และการจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนผ่านระบบออนไลน์และโซเซียลโดยผิดกฎหมาย (Online) ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมด้วยของกลาง
ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิดจับกุม 1,334 คดี ผู้ต้องหา 1336 คนความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด (On Ground) จับกุม 56 คดี ผู้ต้องหา 56 คนความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด (Online)จับกุม 17 คดี ผู้ต้องหา 17 คนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 7,430 คดี ผู้ต้องหา 7,415 คน จับกุมบุคคลตามหมายจับจับกุม 1,783 คดี ผู้ต้องหา 1,781 คนสรุปผลการจับกุมทั้งสิ้น 10,620 คดี ผู้ต้องหา 10,605 คน พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนธรรมดา 1,077กระบอกอาวุธปืนสงคราม 2กระบอกวัตถุระเบิด (ปิงปอง) 886 ลูก เครื่องกระสุนปืน 3,486 นัด ยาบ้า 638,627เม็ด เฮโรอีน 6,989 กรัม ยาไอซ์ 6,492 กรัม ยาเค 1,427 กรัมยาอี 417 เม็ด
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7,ขอบคุณเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 7 ขอบคุณทุกภาคส่วนและพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตำรวจภูธรภาค 7 จะมุ่งมั่นทำงานตามวิสัยทัศน์ของ ผบช.ภ.7 ที่ว่า “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” โดยจะทำการปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อให้นโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติบรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด