ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สืบเนื่องจาก “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดผู้ต้องหาหลอกให้ลงทุน
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 18.25 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เฉลิมพงษ์ ธรรมมียะ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. กับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัว น.ส.นุชจรีย์ วรเวศม์ อายุ 25 ปี อยู่ที่ 103/311 หมู่ 1 ตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร 86000 ผู้ต้องหาตามศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1065/2565 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2565
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยสามารถทำการจับกุมได้ที่ บริเวณตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
ลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ตรวจสอบข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย https://www.blacklistseller.com/ พบว่ามีการโพสเตือนภัย น.ส.นุชจรีย์ วรเวศม์ ว่า เป็นตัวแทนหลอกให้ลงทุน และปั่นยอดขาย โดยในชั้นจับกุม น.ส.นุชจรีย์ วรเวศม์ รับว่า ได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 บัญชี ในราคาบัญชีละ 1,500 บาท ต่อมาได้พบว่าบัญชีถูกนำไปใช้กระทำความผิดในหลายท้องที่ และจากฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า น.ส.นุชจรีย์ วรเวศม์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิด “ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ในหลายพื้นที่มีหมายจับรวมจำนวน 3 หมาย คือ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม , สภ.ภูซาง จ.พะเยา และ สน.โคกคราม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ใครที่มีพฤติกรรมรับจ้างเปิดบัญชี หรือ ขายบัญชีธนาคารให้กับบุคคลอื่น ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และ รีบไปติดต่อกับธนาคารเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารโดยเร็ว เพื่อหยุดวงจรการฉ้อโกงออนไลน์และความผิดอื่นที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ และหากพบว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดและท่านรู้ถึงพฤติกรรมดังกล่าว แต่ยังยินยอมให้มิจฉาชีพนำบัญชีของท่านไปใช้ในการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีได้