สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกลางปี 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแก๊งค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นแก๊งส่งยาเสพติดทางพัสดุไปรษณีย์ จากพื้นที่ชั้นในไปยังภาคใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 และ บก.ขส. จึงได้รวมกันสืบสวนขยายผล เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ที่ส่งยาเสพติดผ่านระบบ Logistics ในพื้นที่ภาคกลาง ไปยัง จ.นราธิวาส ก่อนจะส่งต่อไปยังต่างประเทศ จนกระทั่งพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาจะมีการส่งยาเสพติดกันอีก จึงได้วางแผนจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 และ บก.ขส. บช.ปส. ได้สืบสวนติดตามแก๊งยาเสพติดดังกล่าว จนกระทั่งทราบว่า จะมีการส่งยาเสพติดทางพัสดุ ไปยังบ้านเลขที่ 204/1 ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. จึงไปเฝ้ารอที่บ้านดังกล่าว มีนายอิลฮัม หม๊ะมะเซ็ง อายุ 19 ปี กำลังรอรับสินค้าอยู่ในบ้าน เมื่อมีพัสดุไปส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบพบพัสดุทั้ง 2 กล่อง พบยาบ้ากล่องละ 110,000 เม็ด รวมยาบ้า 220,000 เม็ด สอบถามนายอิลฮัม รับว่า ได้รับการติดต่อจากเครือข่ายยาเสพติดให้รอรับยาบ้าทางพัสดุ จากนั้นให้นำไปวางไว้ริมแม่น้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย แล้วจะมีผู้มารับยาเสพติดไปอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดอายัดทรัพย์สิน เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Toyota รุ่น Camry สีเทา ทะเบียน กต 6531 ปัตตานี, อายัดเงินฝาก 1 บัญชี รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 1,000,000 บาท จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 เพื่อสืบสวนขยายผลกับ ผู้ร่วมขบวนการต่อไป โดยเครือข่ายนี้ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายส่งเฮโรอีนและไอซ์ ไปยังต่างประเทศ
การสกัดกั้นจับกุมการส่งยาเสพติดทางระบบ Logistic ทั้งการสกัดกั้นการลำเลียงทางบก ทางท่าเรือ ทางท่าอากาศยาน และการส่งยาเสพติดทางพัสดุไปรษณีย์ ของ บช.ปส. เป็นไปตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่สั่งการให้สกัดกั้น ทำลายเครือข่ายของผู้ค้ายาเสพติดในทุกมิติ โดย บช.ปส. ได้ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force หรือ SITF) และ โครงการเครือข่ายหน่วยงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากล ในอาเซียน (ASEAN Airport Interdiction Task Force หรือ AITF) โดยในเดือน ตุลาคม 2565 สามารถจับกุมยาเสพติดที่ส่งผ่านท่าเรือ ท่าอากาศยาน และทางพัสดุไปรษณีย์ ได้แก่ เฮโรอีน 18 กก. ไอซ์ 39.3 กก. ยาอี 6,000 เม็ด ยาบ้า 11 เม็ด โดยที่ผ่านมาแก๊งส่งยาเสพติด จะซุกซ่อนยาเสพติดในรูปแบบต่างๆ เช่น ซุกซ่อนในเครื่องใช้ไฟฟ้า ในกล่องใส่เสื้อผ้า ในซองอาหารสำเร็จรูป ในซองเครื่องดื่มสำเร็จรูป ในถังสี ฯลฯ สำหรับประเทศที่จะมีการส่งยาเสพติดไป ได้แก่ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ฮ่องกง เยอรมันและอิสราเอล เป็นต้น