เมื่อวันที่ 29 ต.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. เดินทางไปที่ โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เพื่อเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการเตรียมความพร้อมและการปฎิบัติตนเมื่อเกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง ในสถานศึกษา โดยมีผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่และนักเรียนโรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ กว่า 600 คน ร่วมโครงการ โดยการอบรมครั้งนี้เป็นการต่อยอดการฝึกวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังถอดบทเรียนเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู
การฝึกอบรมแบ่งเป็น สองส่วนคือการอบรมภาคทฤษฎี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการฝึกอบรมภาคปฏิบัติซึ่งแบ่งเป็น 3 ฐาน และจะแบ่งบุคลากรในการฝึกซ้อม 3 กลุ่ม มีทั้งนักเรียน ครู และบุคลากรอื่นๆ ฝึกซ้อมร่วมกัน โดยจะสลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละฐาน
ฐานที่ 1 การ “หนี-ซ่อน-สู้” ซึ่งจะมีการสาธิตเหตุการณ์จริงว่าเมื่อมีคนร้ายก่อเหตุยิงกราดจะมีวิธีการในการเอาตัวรอดอย่างไร ฐานที่ 2 การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อสร้างความรู้เบื้องต้นในการรักษาบาดแผลและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุร้าย เพื่อลดการสูญเสีย และฐานที่ 3 คือการปฏิบัติเมื่อพบ IED ระเบิด ทำให้รู้ว่าเมื่อพบวัตถุเข้าข่ายที่จะเป็นระเบิดควรปฏิบัติตัวอย่างไร
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มาให้ความรู้เรื่องการรับมือเหตุกราดยิงในสถานศึกษา ซึ่งเราทำเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึง พอมีเหตุเกิดที่จังหวัดหนองบัวลำภู ก็ได้มีการถอดบทเรียนแล้วว่า การลดความสูญเสียได้มากที่สุดคือการให้ความรู้กับเหยื่อ เพราะเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่
ส่วนปัจจัยที่จะทำให้เกิดเหตุการฆาตกรรมหมู่ หรือกราดยิงนั้น(Active shooter) มีสามอย่างคือ 1.ตัวคนร้ายเอง 2.สภาพสังคมที่กดดันผู้ก่อเหตุจนเกิดความเครียด และ 3.เมื่อเกิดความกดดันมาก จึงทำให้เกิดความต้องการตอบโต้แบบเฉียบพลัน ซึ่งเป็นได้สองลักษณะ คือการยิงตัวตายและการฆาตกรรม
แต่ถ้าหากสังคมกดดันจนตัวผู้ก่อเหตุควบคุมตัวเองไม่ได้ก็จะเลือกเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบาง อย่างเช่นโรงเรียนหรือห้างสรรพสินค้าที่ผู้คนไม่ทันระวังตั้งตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการถอดบทเรียนจากกรณีที่เกิดเหตุในสหรัฐอเมริกา กว่า 280 กรณี นำมาต่อยอดเพื่อให้ความรู้กับประชาชนต่อไป