ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 พร้อมคณะลงพื้นที่สถานีตำรวจท่ามะกา แถลงข่าวสื่อมวลชน คดีฆ่าปาดคอสาวทิ้งศพคลองชลประทาน ส่วนผู้ต้องหายังปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน ย้ำพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันนี้ 28 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสถานีตำรวจท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พลตำรวจตรีบุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พลตำรวจตรีประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนภาค 7 พลตำรวจตรี ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พันตำรวจเอก อาริส คูประสิทธิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจท่ามะกา พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุคดีฆาตกรรมอำพราง ฆ่าปาดคอ ทิ้งศพที่บริเวณริมคลองชลประทานสายท่าสาร-วังปลา หมู่ที่ 1 ตำบลดอนชะเอม อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี
และก่อนมีการแถลงข่าว ทาง พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 พร้อมคณะได้เดินทางขึ้นไปยังชั้น 3 เพื่อประชุมกับผู้เกี่ยวข้องประมาณ 30 นาที จากนั้นได้ไปยังห้องพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถาม นายสมโชค เผือกเงิน หรือปุ๊ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีฆ่านางสาวฟาริดา โสภา อายุ 27 ปี
ส่วนด้านหน้า สถานีตำรวจท่ามะกา ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโดยไม่ได้นำตัว นายสมโชค เผือกเงิน หรือ ปุ๊ ร่วมแถลงด้วย เนื่องจากเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ โดยนอกจากจะแถลงข่าวคดีฆ่าปาดคอแล้ว ยังมีการนำคดียาเสพติดจาก สถานีใกล้เคียง ไปร่วมแถลงด้วย โดยพลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจร้สดำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 ได้แถลงว่าจากที่เกิดคดีฆ่าปาดคอ นางสาวฟาริดา โสภา อายุ 27 ปี แล้วนำไปทิ้งในคลองส่งน้ำชลประทาน เพื่ออำพรางคดี จนทาง พลตำรวจตรี ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้บัญชาการด้วยตนเอง พร้อมกับชุดสืบสวนภาค 7 ชุดสืบสวนสถานีตำรวจท่ามะกา ติดตามได้หลักฐานจนสามารถขอศาลจังหวัดกาญจนบุรี ออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ตามที่ข่าวได้เสนอไปแล้วนั้น
สำหรับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แม้ว่าทางผู้กระทำผิดจะยังให้การปฏิเสธ แต่หลักฐานทุกอย่างที่ได้มาชัดเจน จนศาลได้ออกหมาย และระหว่างนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหลักฐานให้ชัดเจน เรื่องนี้ต้องใช้เวลาหน่อย และผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 พร้อมผู้การจังหวัดกาญจนบุรี ลงมาดูแลคดีด้วยตนเอง จึงขอย้ำว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ตำรวจจะทำงานอย่างรวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนบริเวณหน้าสถานีตำรวจท่ามะกา ได้มีญาติของทั้ง 2 ฝ่าย ไปร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย ทางฝ่ายแม่และสามีของผู้สูญเสีย บอกว่ารู้สึกปลอดโปร่งที่ทางตำรวจจับผู้กระทำผิดได้ แม้ว่าเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ก็เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่มีวิธีการในเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่หลักฐานของผู้เสียชีวิต แล้วก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อสังคมว่าทางฝ่ายสามีรู้เห็นในการกระทำผิดในครั้งนี้ ทางฝ่ายสามีรับว่าที่อยู่ด้วยกันมีปากเสียงกันบ่อยจริง แต่ไม่ถึงขั้นเอาชีวิต เพราะมีลูกด้วยกันถึง 2 คน เวลานี้ได้เริ่มปรับสภาพรับเรื่องการสูญเสียแม่ได้บ้างแล้ว และลูกสาวคนโตได้เล่าบอกหมดว่า แม่ได้ไปทำอะไรบ้างกับทาง นายสมโชค เผือกเงิน หรือลุงปุ๊ ผู้กระทำผิด
สำหรับทางพี่สาว 2 คน ของ นายสมโชค เผือกเงิน หรือปุ๊ ผู้กระทำผิดได้ไปฟังการแถลงข่าว ด้วยได้ส่งเสียงสอบถามร้องขอความเป็นธรรม ขณะที่ทางผู้บัญชาการ กำลังแถลงข่าว จนเจ้าหน้าที่ต้องเชิญตัวออกไปยังจุดแถลงข่าวทันที และสื่อมวลชนได้สอบถามเรื่องนี้กับพี่สาวทั้ง 2 คน ได้แจ้งกับสื่อว่า ต้องการขอความเป็นธรรม สงสัยทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้รวดเร็วขนาดนี้ น้องชายเป็นคนดีทำงานรับเหมาก่อสร้างไม่เคยมีปัญหาใดๆ ทั้ง ยาเสพติด หรืออื่นๆ บางสื่อเสนอข่าวว่าเคยถูกกักขังมาก่อน เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง น้องชายทำงานก่อนสร้างตลอด ช่วยเหลือ พ่อ แม่ พี่น้อง ในครอบครัวตลอด และฝากไปถึงน้องชายเพราะยังไม่ได้เจอหน้ากันเลย หากทำผิดจริงก็ยอมรับแบบลูกผู้ชาย แต่หากไม่ได้ทำก็สู้ให้ถึงที่สุด อยากขอความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ให้สอบสวนให้ความเป็นธรรมให้มากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่รวดเร็วอย่างนี้ พี่สาวของผู้กระทำผิดกล่าว