บุกรวบสองชาวสิงคโปร์ ลักลอบ บรรจุ ขนส่ง และจำหน่ายยาเสพติดส่งเอเยนต์

“บิ๊กป๋อ” นำทีมชุดปฎิบัติการ ศอ.ปส.ตร. บุกรวบสองชาวสิงคโปร์ ลักลอบ บรรจุ ขนส่ง และจำหน่ายยาเสพติดส่งเอเยนต์ กลุ่มผู้ค้าในพื้นที่กรุงเทพ ซ่อนตัวในไทยกว่า 20 ปี

ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับ สั่งการ และมอบโยบายสำคัญเร่งด่วนให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งระดมกวาดล้าง ปราบปราม ขุดรากถอนโคน ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพ แบบครบวงจร ทั้งขบวนการ อย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง ซึ่งปรากฎตามสื่อที่ผ่านมาหลายครั้งที่ผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำความผิดกฎหมายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น , พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ปส. , พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์  บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.วิชัย  สนสกุล  ผกก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.ตร. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. ร่วมกันสืบสวนจับกุม

1.นายออง เชา เซียง (Ong Shao Xiong)  อายุ 34 ปี ชาวสิงคโปร์ ทำหน้าที่ส่งยาเสพติด

2. นายโล จิน อัง (LOW GIN ANG) หรือ นายเส้ง อายุ 53 ปี ชาวสิงคโปร์ ทำหน้าที่เป็นลักษณะนักเคมี

พร้อมด้วยของกลาง

1. เครื่องแพ็กซองยาเสพติด (Vacuum sealer) จำนวน 1 เครื่อง

2. ซองยาเสพติด ลักษณะคล้ายคลึงกับแบบที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบ ณ ร้านจินหลิง และร้าน Leela จำนวน กว่า 100,000 ซอง

3. ลำโพงขนาดใหญ่ จำนวน 3 ตัว เพื่อใช้ในการซุกซ่อนยาเสพติดขณะสั่งซื้อ/ขนส่ง

4.ไอซ์ ประมาณ 2 กรัม และไฟว์ไฟว์ จำนวน 20 เม็ด (ตรวจค้นได้จาก นายออง เชา เซียง( Ong Shao Xiong)

5. ยาไอซ์ 482.5 กรัม

6. ไฟว์ไฟว์ 380 เม็ด

7. ยาอี 151 ซอง

8. ยาบ้า ประมาณ 2,050 เม็ด

9. คีตามีน 10 กรัม

10. โคเคน จำนวน 1 กรัม

11. ยาเสพติด ชนิด แฮปปี้วอเตอร์ (Happy Water) จำนวน 8 ซอง

12. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนขนาด 9 มม. และ .22 รวม 84 นัด

และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการที่ใช้ในการผสม และแพ็กเกจ

สืบเนื่องจากกรณีตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายยาเสะติดและกลุ่มนักเสพ นักท่องเที่ยวชาวจีน ณ สถานบริการภายใน ร้านจินหลิง และร้าน Leela ภายในท้องที่ สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ที่ผ่านมานั้น ต่อมา พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศอ.ปส.ตร. ได้ทำการเกาะติดผู้มีพฤติการต้องสงสัย มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น เร่งรัด ติดตาม สืบสวน ขยายผลเพิ่มเติ่ม

พบว่า มีชาวต่างชาติชื่อว่า “นายเส้ง” สัญชาติสิงคโปร์  มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ตามสถานบันเทิงต่างๆในพื้นที่  จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการของ ศอ.ปส.ตร. ร่วมบูรณาการปฎิบัติการกับ กก.1 บก.ปส.1 และสืบสวนนครบาลทำการสืบสวนขยายผลจนทราบแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดที่ลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้บริเวณ หน้าห้างบิ๊กซี ลาดพร้าวซอย 9 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในข้อหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ไฟว์ไฟว์) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และจับกุม ตัวนาย โล จิน อัง (Low Gin Ang) ชาวสิงคโปร์ อายุ 63 ปี ในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า,ยาอี) และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (ไฟว์ไฟว์,คีตามีน)  โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในชุมชน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวและเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้บริเวณ หน้าโรงแรมย่านถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ

ในชั้นจับกุม นายออง เชา เซียง (Ong Shao Xiong) ให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา  ส่วน นายโล จิน อัง (LOW GIN ANG) หรือ นายเส้ง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า วิธีของผู้ต้องหาสั่งยามาจากประเทศลาว โดยซุกซ่อนมากับตู้ลำโพง มากับบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง โดยผู้ต้องหาจะเดินทางไปรับแถวย่านหัวลำโพง และจะเช่าห้องพักเพื่อเก็บรักษายาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองเข้าพักในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วจะเปลี่ยนที่พัก และเก็บรักษายาเสพติด โดยจะทำการย้ายที่พักและเคลื่อนย้ายสถานที่ยาเสพติดไปเรื่อยๆ

โดยผู้ต้องหาทั้งสองจะร่วมนำยาเสพติดชนิดต่างๆ มาผสมและลำเลียง จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ  ตามสถานบันเทิงต่างๆ ในพื้นที่ โดยผู้ต้องหาทั้งสองนั้นรับว่าได้หลบหนีเข้าเมืองมาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเป็นเวลานานกว่า 20 ปี หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะทำการสืบสวน ขยายผล ผู้ร่วมขบวนการและเครือข่ายยาเสพติดรายอื่นๆ

พล.ต.อ.ชินภัทรฯ ได้กล่าวเสริมว่า “ผมจะเดินหน้ากวาดล้าง ทำลาย ขุดรากถอนโคน เครือข่าย ขบวนการยาเสพติดทั้งในและจากต่างประเทศ ให้มีประสิทธิภาพและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยับยั้งปราบปราม ป้องกัน มิให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในชุมชนอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและพี่น้องในสังคมต่อไป” ตามนโยบายสำคัญที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ได้กำชับไว้ โดยจะบูรณาการกำลังทุกหน่วยร่วมกัน