“เฟิร์ส สครับบลู” เจ้าของแบรนด์ดาว TikTok หอบเอกสารร้องกองปราบ โดนหลอกซ้ำซ้อน

วันที่ 24 ต.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน กทม. ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความพา น.ส.วนัชพร คำเจริญ หรือ น้องเฟิร์สสครับบลู หรือ @fires_sugerblue อายุ 18 ปี แม่ค้าออนไลน์ เจ้าของแบรนด์สบู่ และ ดาว TikTik มีคนติดตาม 103 K เข้าแจ้งความ ร.ต.ท.เอกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.แจ้งความหลังถูก น.ส.ศวรรยา (ขอสงวนนามสกุล) หรือซี” หลอกให้โอนเงิน 1.6 ล้าน

โดย “เฟิร์ส สครับบลู”เปิดเผยว่าหลังจากที่ตนเองประกาศหาบ้านเช่าที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาผ่านทาง ไอจี. ส่วนตัวไป มีเด็กอายุ 16 ปี อ้างเป็นนายหน้าติดต่อมา พร้อมส่งภาพถ่ายบ้านเช่าที่ภูเก็ตมาให้ดู บอกเป็นของพ่อ ได้คุยกันจนสนิทและเชื่อใจ ก่อนจะโอนเงินจองบ้านเช่าไปกว่า 3 แสนบาท

หลังจากนั้นตนได้พูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนจะปรึกษาขอคำแนะนำว่ามีทนายความช่วยทำคดีไหม เนื่องจากตนเองถูกชาวเน็ตคอมเม้นต์ด่าจำนวนมากในคลิปที่โพสต์ลง TikTok เขาแนะนำทนายความให้ติดต่อเจรจากันจนเชื่อใจก่อนจะตกลงว่าจ้างให้ทำคดี ได้เรียกค่าใช้จ่ายในการทำคดีจากนั้นได้โอนเงินค่าทนาย 5 แสนกว่าบาท

น้องเฟิร์ส ฯ ยังเปิดเผยอีกว่า เนื่องจากต้นเองเป็นเจ้าของแบรนด์ มีความจำเป็นจะต้องหาคนทำตลาดมาเก็ตติ้งให้เพื่อให้แบรนด์เติมโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงลงประกาศในไอจีรับหาคนทำการตลาดให้ มีคนแนะนำ ไอจีมาให้ดูบัญชีหนึ่ง เข้าไปส่องดูโปรไฟล์ก็สนใจ มีตัวตนหน้าเชื่อถือถูกต้องดี จึงทักไปคุยด้วย ก่อนสินใจว่าจ้าง โดยเขามาคุยด้วยที่ จ.ลพบุรี นัดหมายเจอกันเพื่อทำสัญญาว่าจ้าง ก่อนจะโอนเงินค่าทำสัญญาไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นเขาแนะนำให้เราเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เพราะเห็นว่าเราเป็นเจ้าของแบรนด์แต่ภาษาอังกฤษอ่อน จะบริหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากนั้นนัดเจอกันอีกครั้งที่ปทุมธานี บอกให้เราโอนค่ายิงแอดฯ โฆษณาราคา 4 แสนบาท ซึ่งเราเข้าใจเรื่องการนี้ดีจึงโอนให้ไปตามคำขอมา หลังจากนั้นก็ขอคำแนะนำ ซี ว่ามีทนายคนอื่นหรือไม่ เพราะมีความประสงค์จะหาทนายใหม่มาช่วยทำคดี “ซี “ได้แนะนำมาอีกคน ติดต่อกันก่อนจะขอตั๋วทนายให้ส่งมาให้ดู พบว่ามีการตัดแปะรูปภาพ และเมื่อใบเสร็จ กับใบกำกับภาษีดู พอส่งมาก็พบว่าเป็นของทำขึ้นมาเอกอีก ไม่ใช่เอกวารจริง เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นทนายปลอม หลังจากนั้นตนได้นัด ซี มาพบเพื่อสอบถามเรื่องทั้งหมด เขาอ้างว่าถ้าทำงานด้วยกันแล้วไม่สบายใจก็ยืนดีโอนเงินคืนให้ทั้งหมด วันนี้เราจึงรู้ว่า ซี กับทนายความที่อ้างถึงเป็นคนเดียวกัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เงินคืน และติดต่อไม่ได้อีกเลย

สรุปตนโดนโกงแล้ว 3 ครั้ง เจอบุคคลแอบอ้างเป็นทนายโดยใช้ตั๋วทนายคนอื่นมาตัดแปะรูปแทน มีการใช้เอกสารใบเสร็จ ใบกำกับภาษีปลอม รวมเป็นเงินประมาณ 1.6 ล้านบาท

ด้าน ดร.เกรียงศักดิ์ ทนายความกล่าวว่า ผู้เสียหายถูกบุคคลสองกลุ่มหลอกโอนเงินต่อเนื่องกันจากการทำธุรกิจการตลาดและเช่าบ้าน ซึ่งบ้านเช่าก็ไม่ได้ ทนายความที่ต้องการว่าจ้างมาทำคดีก็เป็นทนายทิพย์ หลังพบพนักงานสอบสวนแจ้งความเสร็จแล้วจะไปร้องสถาทนายความให้ทราบพฤติการณ์ว่าปัจจุบันมีคนหากินด้วยการหลอกจัดหาทนายความให้แต่ไม่มีทนายว่าความให้จริงๆ แค่แอบอ้างว่ามีทนายทำคดีให้ แต่หลอกเอาเงินค่าทนาย เป็นทนายทิพย์

คดีนี้ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งใบกำกับภาษีปลอม เอกสารการโอนเงิน รวมถึงแชทข้อความสนทนากับผู้เสียหายมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารกับเด็กทั้ง 2 ราย ซึ่งไม่รู้ว่ามีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกันหรือไม่รอให้ตำรวจตรวจสอบดู

ด้าน นายศิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอล เปิดเผยว่าตนอยู่ในกลุ่มเดียวกับน้องเฟิร์ส รู้เรื่องที่เฟิร์ส ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงหลายครั้ง จึงพามาให้ทนายเกรียงศักดิ์ช่วยมาแจ้งความวันนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป