รวบสาวทาสยาบ้า พบของกลางกว่า 1,040 เม็ด

วันที่ 24 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภายใต้แผนปฏิบัติการ “ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง” จังหวัดนครพนม ห้วงระดมกวาดล้างยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม ได้บูรณาการจับกุม รวมทั้งยึดทรัพย์ ผู้กระทำผิดได้เป็นจำนวนมาก และยังคงเดินหน้ากวาดล้างอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ภายใต้การดำเนินการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอเมืองนครพนม (ศป.ปส.อ.เมืองนครพนม) นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม นายสุภชัย ท้าวกลาง ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายเอกอนันต์ นาคประเสิรฐ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า นางนิ่ม (นามสมมติ) อายุ 42 ปีชาวบ้าน ต.นาราชควาย หมู่ 10 อ.เมืองนครพนม มีพฤติการณ์เสพและจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) ให้กับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ ต.นาราชควาย และพื้นที่ใกล้เคียงอยู่เป็นประจำ จึงได้สั่งการให้ นายจักรพล เที่ยงภักดิ์ และ นายภาณุวัฒน์ อิ่นแก้วถา ปลัดอำเภอฯ/เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นำกำลังกองร้อย อส.อ.เมืองนครพนม ที่ 3 เข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว

พบนางนิ่มยืนอยู่ข้างบ้าน พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็มีท่าทางพิรุธ จึงขอทำการตรวจค้นตามร่างกาย ก็พบยาบ้าจำนวนหนึ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสซุกซ่อนอยู่ในขอบกางเกงข้างขวาที่นางนิ่มสวมใส่อยู่ ชุดปฏิบัติการณ์จึงได้บอกกับนางนิ่ม หากมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ให้นำออกมา หากไม่ให้ความร่วมมือจะประสานชุดสุนัขกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีมาช่วยดมค้นหา ด้วยความกลัวนางนิ่มได้บอกว่า ตนซ่อนยาบ้าไว้จำนวนหนึ่งในตะกร้าพลาสติกอยู่บริเวณข้างบ้าน และพาไปยังจุดซุกซ่อนพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 4 ถุง และบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีชมพู ประทับตัวอักษรภาษาอังกฤษ A สีเทา จำนวน 1 ถุง รวมยาบ้าจำนวน 5 ถุง โดยรัดด้วยหนังยางอยู่ในถุงหน้ากากอนามัย พันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ ยัดไว้ในถุงเท้าสีเทาเพื่อพรางตา

สอบถามเบื้องต้นนางนิ่ม ยอมรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตน ซึ่งซื้อมาจากนางอ้อม (นามสมมติ) ราษฎรฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาที่กองร้อย อส.อ.เมืองนครพนม ที่ 3 เพื่อทำการสอบสวน ขยายผล บันทึกการจับกุมและตรวจนับยาบ้าทั้งหมด นับได้จำนวน 1,040 เม็ด

นอกจากนี้นางนิ่มยังยอมรับว่า เดิมตนเองเป็นเพียงผู้เสพ ได้ซื้อยาบ้าจากเอเย่นต์รายย่อยมาราคาเม็ดละ 80 บาท โดยจะเสพวันละ 4-6 เม็ด เงินที่เอาไปซื้อยาก็นำทรัพย์สินในบ้านไปขาย จนทุกวันนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ครอบครัวรู้ว่าตนติดยาเสพติดเกิดความเอือมระอา ทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด เมื่อไม่มีอะไรนำออกไปขายก็เที่ยวลักเล็กขโมยน้อย ภายหลังได้รู้จักกับนางอ้อมคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ให้ยาบ้าตนมาจำหน่ายจึงไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ภายหลังเยาวชนถูกจับกุมก็ซัดทอดว่าซื้อยาบ้ามาจากตน จึงถูกจับกุมดังกล่าว โดยก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่มาจับเพิ่งเสพยาบ้าไป 1 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจหาสารเสพติด พบปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป