เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 18 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้รับแจ้งจาก นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอเมืองราชบุรี มีแรงงานต่างด้าวจำนวนหลายรายหลบหนีเข้าเมือง โดยมาหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณไร่อ้อยข้างทาง หมู่ที่ 4 ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจึงประสาน พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี รรท. ผกก.สภ.เมืองราชบุรี นำกำลังจนท.ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง อ.เมืองราชบุรี เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่หลบหนีเข้าเมือง โดยสามารถจับแรงงานต่างด้าวได้จำนวน 30 คน แบ่งเป็นชาย 26 คน และหญิง 4 คน ก่อนจะนำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด มาตรวจหาเชื้อโควิด 19 และสอบสวนที่อ.เมืองราชบุรี
ซึ่งก่อนหน้ามีการเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าว นายสาเรศร์ พุฒทอง กำนันต.โคกหม้อ ได้แจ้งมายัง นายจำนงค์ จันทร์วงศ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และ นายยศพล ชัยบุลวัชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พบเห็นแรงงานต่างด้าวจำนวนหลายคน หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณไร่อ้อยข้างทาง จึงประสานไปยังนายอำเมืองราชบุรี ก่อนจะร่วมกับ จนท.ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวดังกล่าวได้ทั้งหมด ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่อ.เมืองราชบุรี และส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองราชบุรี ในข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย ผวจ.ราชบุรี ลงพื้นที่เข้าสอบสวนแรงงานต่างด้าวด้วยตนเอง โดยทั้งหมดรับสารภาพว่า ลักลอบเข้ามาทางด่านน้ำพุร้อน จ.กาญจนบุรี โดยมีผู้นำพานำมาพักในบริเวณไร่อ้อย หมู่ที่ 4 ต.โคกหม้อ เพื่อรอเปลี่ยนรถก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยคิดค่าใช้จ่ายต่อคนรวม 3.5 หมื่นบาท จึงส่งการให้ดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พร้อมประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อผลักดันแรงงานต่างด้าวทั้งหมดกลับประเทศต่อไป พร้อมยังได้สั่งการเร่งตรวจสอบหาผู้นำพาที่นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเข้ามาอีกด้วย