จากกรณีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สูงเนินได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลเสียชีวิตอยู่ภายในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดสืบสวนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบบริเวณชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์เป็นสำนักงานมีผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อคือนายธรรมธร วงศ์คุณาธร อายุ 48 ปี เป็นทนายความ สภาพศพมีลักษณะขึ้นอืด มีบาดแผลถูกแทงจากของมีคมหลายจุด คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 7 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพื่อชัณสูตรศพ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ข้อมูลว่าทนายความรายดังกล่าวถูกจ้างวานฆ่าโดยอดีตเพื่อนซึ่งชื่อว่านายบอยและพวกรวมอีก 4 คนในการลงมือฆ่าทนายความคนดังกล่าวนี้
ล่าสุดที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.วทัญญู รุ่งรัศมี ผกก.สภ.สูงเนิน พร้อมชุดสืบสวนได้ร่วมแถลงจับกุมกลุ่มจ้างวานฆ่าดังกล่าว โดยมีนายรังสิมันตุ์ สีรังหรือนายบอย อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน พร้อมกับพวกอีก 5 คนที่ลงมือก่อเหตุ โดยนายผู้จ้างวานได้ว่าจ้างทีมฆ่า 4 ราย เป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท โดยได้ลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 ก่อนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายแยกย้ายไปกบดานตามจังหวัดต่างๆ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ตามแกะรอยจนกระทั่งตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด โดยได้จับกุมผู้ลงมือฆ่าคือนายณัฐ เริงเขตร์กรณ์หรือนายทอม อายุ 33 ปีและนายบิ๊ก อายุ 17 ปี ก่อนขยายผลจับกุมจนถึงผู้จ้างวานและผู้จัดหาคือนายบอยผู้จ้างวานและนายบุญสิทธิ์ ศรีดำ อายุ 43 ปี คนจัดหาทีมฆ่า ส่วนคนขับรถคือนายอรรฆพร ฉิมมาทา อายุ 29 ปีเป็นคนดูต้นทางและคนขับรถพาผู้ก่อเหตุหนีนายพุฒิพงษ์ อุบลบาล อายุ 42 ปี เป็นรถยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาร์ดร้า สีเทาเลขทะเบียน กท 139 บุรีรัมย์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมครบทั้งหมด 6 คน นำตัวมาสอบสวนและแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ กล่าวหาจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
นายสุนทร เม๊งไธสง อายุ 80 พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าลูกชายถูกฆาตกรรมเสียชีวิตที่สำนักทนายความในพื้นที่อำเภอสูงเนิน รู้สึกเสียใจแต่ก็ยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ก่อเหตุ หรือมีความขัดแย้งกับใคร จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งกระบวนการ และพบว่าผู้ว่าจ้างก็คือเพื่อนสนิทที่เคยมารับประทานข้าวที่บ้านอยู่เป็นประจำหลังจากที่ทราบข่าวว่าทางตำรวจได้มีการจับกุมตัวคนร้ายก็รู้สึกดีใจ ที่สามารถจับกุมได้ ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยบอกว่ามีคนพยายามติดตามเพื่อจะฆ่าตนเอง แต่ตนก็งง ว่าใครจะมาฆ่า นึกว่าลูกชายพูดเล่น จนกระทั่งพบเป็นศพ ซึ่งตนมองว่าการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากลูกชายมีการว่าความชนะคดีผู้ว่าจ้างฆ่า ทำให้ต้องมีการชดใช้เงินจำนวนหลายล้านบาท จึงทำให้เกิดความโมโห และนอกจากนี้ยังมีคดีฟ้องร้องกันอีกหลายคดี อาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจ ถึงแม้ว่าผู้ว่าจ้างจะให้การปฏิเสธ แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอไปสู้กันในชั้นศาล การจับกุมคนร้ายในครั้งนี้ลูกชายคงจะนอนตายตาหลับ และมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
วีระศักดิ์ บุญเพลิง ประธานกรรมการบริหาร สภาทนายความภาค 3 นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวค่อนข้างเป็นคดีสะเทือนขวัญ และมีการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นทนายความในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจริง ส่วนชนวนเหตุในครั้งนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ว่ามีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน แต่อย่างไรก็ตามขอแสดงความเสียใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ในส่วนทนายความเองก็ต้องระมัดระวัง เพราะการว่าความแต่ละครั้งจะมีผู้ได้ประโยชน์และผู้เสียผลประโยชน์ หากพบว่าตนเองจะได้รับอันตรายควรที่จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแจ้งให้คนรอบข้างได้ทราบ เพื่อจะได้ง่ายต่อการติดตาม
ด้าน พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่ได้รับแจ้งพบศพอยู่ที่สำนักงานทนายความในพื้นที่อำเภอสูงเนิน ก็ได้มีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบคนร้ายผู้มาก่อเหตุจึงได้ทำการขยายผลจนสามารถติดตามจับผมได้ทั้งกระบวนการ ถึงแม้ว่าผู้ว่าจ้างจะให้การปฏิเสธ แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐาน ส่วนการฆ่าครั้งนี้เกิดจากคู่กรณีมีการฟ้องร้องกันกับหลายคดี ทำให้เกิดความไม่พอใจจึงได้มีการจัดหามือฆ่า โดยมีการว่าจ้างจำนวน 100,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหลักฐานในการโอนเงินให้กลุ่มคนที่ก่อเหตุ มั่นใจในพยานหลักฐานอย่างแน่นหนา ถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างมาก และอยู่ในความสนใจของประชาชน