จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 เวลา 02.57 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิง นายณรงค์ นิลโชติ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านนายหัวคาราโอเกะ เสียชีวิต 1 ราย และ นางวรรณดี จรเสมอ อายุ 51 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ทะเลน้อย ภ.จว.พัทลุง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกมากถึง 15 ปลอก ตามที่ปรากฏตามข่าวและสื่อโซเชียลมีเดีย นั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญในครั้งนี้โดยเร่งด่วน จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีสาเหตุโกรธเคืองอยู่กับ นางจีระวรรณ หรือนก มูสิกรักษ์ อายุ 47 ปี ซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยสืบทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้กู้เงินจากนางจีระวรรณฯ เป็นเงินรวม 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 30 ต่อเดือน แต่นายณรงค์ฯ ผู้เสียชีวิตไม่สามารถชำระค่างวดและดอกเบี้ยได้ อีกทั้งนายณรงค์ฯ และนางวรรณดีฯ เป็นพยานปากสำคัญซึ่งกำลังจะขึ้นให้การต่อศาล ในคดีที่บุตรชายของนางจีระวรรณฯ ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากสาเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนหาผู้ก่อเหตุทั้งหมด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง
ประกอบด้วย 1) นางจีระวรรณ หรือนก มูสิกรักษ์ อายุ 47 ปี ผู้จ้างวานฆ่าดำเนินคดี ในความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2) นายวิสุทธิ์ หรือเปา พรมบุญแก้ว อายุ 27 ปี ลูกเขยของนางจีระวรรณฯ ผู้ร่วมก่อเหตุ (คนขับ) 3) นายกฤษฎา รัตนพันธ์ อายุ 30 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุ (คนยิง) 4) น.ส.อนุสรา หรือนุ๊ก มูสิกรักษ์ อายุ 26 ปี ลูกสาวของนางจีระวรรณฯ ผู้ช่วยพาผู้ก่อเหตุหลบหนี
ดำเนินคดี ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ , ร่วมกันเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยไม่มีเหตุอันควรโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ , ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นางจีระวรรณฯ ได้จ้างวานให้ นายวิสุทธิ์ฯ ลูกเขยของตนกับพวก ใช้อาวุธปืนไปยิงนายณรงค์ฯ และนางวรรณดีฯ ตามวันเวลาเกิดเหตุ จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนที่ต่อมา น.ส.อนุสราฯ ลูกสาวของนางจีระวรรณฯ จะรับตัวนายวิสุทธิ์ฯ กลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของนางจีระวรรณฯ และใช้ชีวิตตามปกติเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย รวมถึงขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในความผิดเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หลังพบว่ามีลูกค้าที่กู้ยืมเงินนอกระบบและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มากกว่า 200 ราย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตตามปกติสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ และใช้วิธีการข่มขู่ลูกหนี้จนสร้างความหวาดกลัวในพื้นที่เป็นอย่างมาก และยังก่อเหตุฆ่าผู้อื่นได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย วันนี้นอกจากจะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นแล้วนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยจะดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ เป็นการป้องปรามมิให้ผู้อื่นกระทำผิดในลักษณะเช่นเดียวกันนี้อีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวพัทลุงกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว