วันนี้ (6 ก.ย.65) เวลา 14:00 น. พลตำรวจโท กรชัย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงข่าว การทลายเครือข่ายหลอกลงทุน P Miner ซึ่งมีรถยนต์หรู และรถจักรยาน ฮาร์ลีย์ เดวิดสัน รวมถึง ทรัพย์สินมีค่าประเภทนาฬิกา กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม พร้อมด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กว่า 120 เครื่อง ซึ่งใช้เป็นเครื่องขุดเหรียญดิจิทัล เป็นของกลางที่ตำรวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ยึดได้ หลังเข้าตรวจค้นบ้านพักใน จังหวัดเชียงใหม่ของ เครือข่ายนายกิติกร CEO ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโคเคอร์เรนซี่ กรุ๊ป
พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยว่า คดีนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ที่ถูกชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิก และร่วมลงทุนจุดเหรียญและเทรดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี เครือข่าย หลอกลงทุน P Miner ตามโครงการต่างๆ มากกว่า 30 โครงการ โดยมีการอ้างว่า ผู้ที่ลงทุนเป็นเงินจำนวน 50000 บาท จะได้รับการคืนทุน 5 ครั้ง ทุกวันที่ 6 ของเดือนโดยแบ่งเป็นงวดๆ ละ8,000 บาท 13,000 บาท 16,000 บาท 20,000 บาท และ 24,000 บาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 80,000 บาท บางโครงการอ้างว่าได้กำไรมากถึงร้อยละ 82 ต่อเดือน หรือได้กำไรร้อยละ 1,000 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายจะพึงจ่ายได้
จากนั้นเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว ก็จะได้รับหนังสือ สัญญาการลงทุนซึ่งในสัญญาจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนไม่ว่าจะเป็น ชื่อโครงการที่ลวทุน จำนวนเงินที่ลงทุน นะยะเวลาที่ลงทุน จำนวนครั้งและจำนวนผลตอบแทนที่จะได้รับเงินกลับมา ดพื่อสร้างความน่าเชื่อถือส่ามีการลงทุนจริง ทั้งนี้ในข่วงแรกของดารเริ่มลงทุน ผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนกลับมาบางส่วนจริงต่อมาเมื่อเดือน ส.ค.65 ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินปันผลจากกาาลวทุนแต่อย่างมด ผู้ต้องหาอ้างเหตุขัดข้อง ต้างๆ และไม่สามารถติดต่อได้ในเสลาต่อมา ผู้เสียหายเขื่อว่าถูกหลอกลวงจึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย
ซึ่ง ในขณะนี้ นายกิติกร และพวก ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับของศาลอาญาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งจ้อหาร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตามพรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1)
สำหรับมูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 439 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายบางส่วนเข้าแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้ว