นครบาลเตรียมพร้อม มุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยให้สังคม กรณีมีการชุมนุมฯ วันที่ 25 ส.ค.2565

จำนวน 5 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มพักค้างแรมมีจำนวน 1 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มสภาประชาชนแห่งชาติสภาประชาชนแห่งโลก บริเวณหน้าสถานทูตรัสเซีย กลุ่มผู้ชุมนุมฯ จุดอื่นๆ มีจำนวน 4 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เวลา 17.00 น. 2) กลุ่มWe Volunteer (WEVO) บริเวณสะพานลอยหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด เวลา 17.00 น., 3) กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกา เวลา 17.30 น. และ 4) เฝ้าระวัง กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเครือข่ายทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง 

                   สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2565 กลุ่มคนแดงปฏิวัติ  จำนวนประมาณ 100 คน นำโดย รวมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 14.00 น. และได้เดินทางไปสมทบทำกิจกรรม
ร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ที่ปักหลักค้างคืนบริเวณแยกนางเลิ้ง เวลา 17.00 น. จากนั้นได้ยุติชุมนุมฯ เวลา 18.30 น.

                   ส่วนกลุ่ม ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร กลุ่มทะลุคุก 100% กลุ่มทะลุแก๊ส และแนวร่วม ประมาณ 20 คน รวมตัวบริเวณแยกนางเลิ้งมาตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.65 และทำกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเวลา 19.28 น.
กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ได้ร่วมกันปาถุงสีข้ามแนวรั้วกั้นลงพื้นถนน จากนั้น 20.00 น. ได้แยกย้ายออกจากพื้นที่

                   ต่อมาเวลา 21.18 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส ประมาณ 10 คน ได้ไปรวมตัวกันที่แยกดินแดง จนกระทั่งเวลา 21.30 น. ได้ก่อเหตุจุดพลุและปาประทัดบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนได้รับเบ็ดเจ็บที่นิ้วมือ จำนวน 1 ราย จึงได้ประสานรถกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชับพื้นที่ และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้แยกย้ายออกจากพื้นที่ไป                

การดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมี คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯ
ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 848 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 497 คดี
อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 351 คดี

          ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ร่วมการชุมนุมฯ ในทุกๆจุด ที่ได้มีการกระทำความผิดกฎหมายฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายในทุกกรณี ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด  

ข้อห่วงใย  บช.น. “ขอย้ำเตือน!!” ไปยังผู้ที่คิดก่อเหตุความไม่สงบ และผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมฯ
โดยผิดกฎหมายว่าหากมีการก่อเหตุสร้างความเสียหายสร้างความเดือดร้อนในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวทุกราย และ ขอแจ้งเน้นย้ำว่าการชุมนุมฯ หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ยังถือเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถึงแม้การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธจะกระทำได้ แต่ผู้จัดและผู้ชุมนุมฯก็ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการจัด และการแจ้งการชุมนุมฯ
ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ

กรณีที่ผู้ชุมนุมฯไปทำการชุมนุมฯในพื้นที่หน่วยงานของรัฐที่จัดให้เป็นสถานที่สำหรับการชุมนุมฯ
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องแจ้งการชุมนุมฯก็ตาม แต่การที่จะเดินขบวน หรือเตรียมย้ายการชุมนุมฯ ก็จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติตามมาตรการในการอำนวยความสะดวกประชาชน ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถที่จะสั่งการให้ยุติ ระงับ หรือยับยั้งการชุมนุมได้ “หากมีการฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมฯ ต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประเทศชาติและประชาชน